รัสเซียยังเจอกับปัญหาเงินเฟ้อและรูเบิลที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา

เงินรูเบิลกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ มีการออกออกกฤษฎีกาจากประธานาธิบดีปูติน ที่กำหนดให้บริษัทมีการส่งออกเป็นหลักจำเป็นต้องขายสกุลเงินต่างประเทศที่เป็นรายได้จากการส่งออกให้แปลงเป็นเงินรูเบิลทั้งหมดเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อพยุงค่าเงินรูเบิลและลดเงินเฟ้อที่อาจเกิดจากการนำเข้าลดลง ทางด้านนักลงทุนก็มีการคาดการณ์แล้วว่าธนาคารแห่งรัสเซียจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

อัตราเงินเฟ้อในรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) ในเดือนกันยายนปี ซึ่งเป็นการทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน พบว่าเงินเฟ้อในอาหารและน้ำมันเบนซินมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ เงินเฟ้อตัวเลขเงินเฟ้อที่เกินกว่าคาดในครั้งนี้เป็นตัวเสริมความคาดหวังว่าธนาคารแห่งรัสเซียอาจยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อกดดันเงินเฟ้อที่อาจพุ่งสูงขึ้นได้ในอนาคตและเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้เงินรูเบิลมีสเถียรภาพมากขึ้น

การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของรัสเซียลดลงเหลือ 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องและอุปสงค์ที่อ่อนแอลงทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน แม้ว่าในช่วงนี้จะมีการเกิดสงครามในตะวันออกกลาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ราคาน้ำมันมีการเพิ่มขึ้นมากนัก นอกจากนี้ การขาดดุลบริการเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องมาจากนักท่องเที่ยวลดลง

การเกินดุลการค้าของรัสเซียลดลงเหลือ 10.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม จาก 25.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าถือว่าการส่งออกเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยที่การนำเข้าลดลงเล็กน้อย คิดเป็น 25.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดือนที่แล้วที่ 25.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต

การส่งออกของรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้นถึง 15.27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 36.37.พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของรัสเซียยังคงป็นน้ำมันดิบ

แม้ว่าในตอนนี้จะเกิดปัญหาที่ทำให้กำลังการผลิตของโรงกลั่นลดลงไปบ้างก็ตาม การส่งออกส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังจีนซึ่งเป็นคู้ค้าสำคัญ

อัตราผลตอบแทนพันฐบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของรัสเซียลดลงเหลือ 12.3% ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 13.08% ซึ่งผลกระทบหลักยังคงเกิดจากเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นทำให้รัสเซียมีการการขาดดุลงบประมาณไปถึงที่ 2.4 ล้านล้านรูเบิลในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งค่าใช้จ่ายทางด้านสงครามที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าการส่งออกจะเพิ่มมากขึ้นแต่การเติบโตที่ไม่มั่นคงของจีนและการซื้อพลังงานที่ลดลงจากอินเดียอาจส่งผลกระทบในระยะยาว

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 97.8863, 98.2332, 98.4976

แนวรับสำคัญ: 97.2750, 97.0106, 96.6637

ที่มา: Investing.com

จุดกลับตัว 13 ตุลาคม 2566 18:55 น. GMT+7