คู่ GBP/USD ค่อย ๆ ปรับฐานเข้าใกล้บริเวณ 1.2240 หลังจากล้มเหลวในการแตะระดับสูงสุดเมื่อวาน (1 ส.ค.) ที่บริเวณ 1.2293 GBP/USD มีแนวโน้มที่จะเกิดการสูญเสียมูลค่าเพิ่มขึ้น หากลดลงต่ำกว่าแนวรับทันทีที่บริเวณ 1.2240 เนื่องจากความเชื่อมั่นของตลาด ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ - จีน ทวีความรุนแรงขึ้น
นักข่าวได้รับรายงาน จากการสังเกตบริเวณเส้นกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวันว่า ได้มีกิจกรรมทางทหารโดยเครื่องบินรบของจีนบางอย่าง ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ นอกจากนี้ สำนักงานศุลกากรจีนได้สั่งห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารมากกว่า 100 รายการจากไต้หวัน เหตุการณ์ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และการประมงของประเทศ
ขณะนี้ นักลงทุนกำลังให้ความสนใจไปที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ซึ่งจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีนี้ ตามมติของตลาด ผู้ว่าการธนาคารคารกลางอังกฤษ แอนดรูว์ เบลีย์ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps
สถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักของ BoE จะทำให้แนวโน้มของ GBP ยังคงลดลง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ยอดค้าปลีกตกต่ำ และข้อมูลการจ้างงานที่ตกต่ำ ก็ไม่สนับสนุน BoE สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (กดดัน GBP)
สำหรับ USD ข้อมูล PMI บริการของสถาบันการจัดการอุปทานแห่งสหรัฐอเมริกา (ISM) ในวันพุธจะเป็นประเด็นที่น่าสนใจ การประมาณการเบื้องต้นสำหรับข้อมูลทางเศรษฐกิจคือ 53.5 ซึ่งต่ำกว่าการเปิดเผยก่อนหน้าที่ 55.3 อย่างมาก ข้อมูลดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ของ US ISM Services นั้นน่าจับตามอง เนื่องจากเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น (สนับสนุน USD)
| ภาพรวม |
| ราคาปิดรายวัน |
1.2244 |
| การเปลี่ยนแปลงรายวัน |
-0.0005 |
| การเปลี่ยนแปลงรายวัน % |
-0.04 |
| ราคาปิดรายวัน |
1.2249 |
| เทรนด์ |
| SMA20 . รายวัน |
1.2 |
| SMA50 . รายวัน |
1.2216 |
| SMA100 . รายวัน |
1.2518 |
| SMA200 . รายวัน |
1.2981 |
อัตราแลกเปลี่ยน GBP/USD เพิ่มขึ้น เนื่องจากความผิดหวังของข้อมูลของสหรัฐฯ
อัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ดอลลาร์สหรัฐฯ (GBP/USD) ปรับตัวสูงขึ้นตลอดวันนี้ เนื่องจากดัชนี PMI ภาคการผลิต ISM ของอเมริกาเปิดเผยว่า กิจกรรมในเดือนกรกฎาคมชะลอตัวลง (กดดัน USD)
ข้อมูล JOLT ในวันนี้อาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงได้อีก หากพบว่า ตำแหน่งงานว่างน้อยลง (กดดัน USD)
ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ร่วงลงจากรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่างหรือไม่?
ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจยังคงเผชิญกับความผันผวนในวันนี้ หากการเปิดเผย JOLT ของเดือนมิถุนายน เผยจำนวนตำแหน่งงานว่างที่ลดลง
จำนวนตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ คาดว่า จะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน สะท้อนถึงความต้องการแรงงานที่ลดลง ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของอเมริการายงานออกมาที่ -0.9% หลังจากการหดตัว 1.6% ในไตรมาสที่ 1 เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ของโควิด 19 สิ่งนี้เป็นไปตามเกณฑ์ของภาวะถดถอยทางเทคนิค (กดดัน USD)
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของกลุ่มยูโอบี กล่าวว่า เศรษฐกิจยังไม่น่าเป็นห่วง และยากที่จะพิจารณาถึงภาวะถดถอยเต็มรูปแบบ เนื่องจากมีบางส่วนของเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัว
ในทางกลับกัน กลุ่มธนาคาร คาดว่า การเติบโตของ GDP ทั้งปีจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกที่ 1.8% ในปี 2565 ซึ่งสะท้อนถึงการประเมินที่แย่ลงของผลกระทบของเงินเฟ้อต่อการเติบโต การจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจยืนยันข้อมูล JOLT ที่อ่อนแอได้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนงานในเดือนกรกฎาคม น้อยกว่าในเดือนมิถุนายน
ค่าเงินปอนด์อ่อนลง จากปัญหาการจ้างงานหรือไม่?
เงินปอนด์อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น การแข่งขันความเป็นผู้นำทางการเมือง ส่งผลให้เมื่อมีความตึงเครียดระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้ง
Liz Truss อ้างว่า แผนการของ Rishi Sunak ที่เป็นคู่ต่อสู้ในการเพิ่มภาษีนิติบุคคล จะขัดขวางการเติบโต และทำให้เกิดภาวะถดถอยซึ่งยิ่งตอกย้ำความกลัวที่มีอยู่เป็นทุนเดิม เนื่องจากการเติบโตของ GDP คาดว่า จะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้การดำเนินการทางอุตสาหกรรม อาจทำให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นได้ เนื่องจากบริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ วางแผนที่จะยกเลิกค่าจ้าง และให้พ้นสภาพการทำงาน ทำให้คนงานหลายพันคนนัดกันหยุดงานในวันนี้ และยึดแถวรั้วนอกสำนักงานของบริษัท เพื่อประท้วงสิ่งที่ถือว่า เป็นการเพิ่มค่าจ้างที่ไม่เพียงพอ
การกระทำดังกล่าว ทำให้เกิดการหยุดชะงักในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากมองในแง่ดีอาจสนับสนุนค่าเงินปอนด์ เนื่องจากธนาคารกลางอังกฤษยืนยันว่า การปรับขึ้น 0.25% เป็นแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุดในวันพฤหัสบดี
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
Updated
1 year ago
(Aug 02, 2022 18:12)
