ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลง 0.67% แตะที่ 95.353 เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางสกุลเงินปอนด์และยูโรที่แข็งค่าขึ้น

ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลง 0.67% แตะที่ 95.353 เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางสกุลเงินปอนด์และยูโรที่แข็งค่าขึ้น
Create at 2 years ago (Feb 04, 2022 12:54)

ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลง 0.67% แตะที่ 95.353 เมื่อคืนนี้  และปรับตัวลดลงในรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่พ.ค. 2021 หลังจากปอนด์และยูโรแข็งค่าขานรับ BoE ขึ้นดอกเบี้ย, ECB ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ อย่างไรก็ดีปัจจุบันได้ปรับตัวลงต่อเล็กน้อยโดยทรงตัวอยู่ที่ระดับ 95.217 ณ เวลาที่เขียน

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ และมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1. นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ยอมรับว่า อัตราเงินเฟ้อร้อนแรงเกินคาด  และมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
2. เมื่อถูกถามว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังคง "ไม่น่าเป็นไปได้" ดังเช่นที่เคยระบุหรือไม่  นางลาการ์ดกล่าวว่า ECB จะประเมินเงื่อนไขอย่างรอบคอบและการตัดสินใจ "ขึ้นอยู่กับข้อมูล" โดย  เลี่ยงที่จะกล่าวย้ำความคิดเห็นในอดีตที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 ไม่น่าเป็นไปได้อย่างมาก (very unlikely) ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 
 
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 14 ม.ค. ที่ 1.1452 ดอลลาร์ และพุ่งชึ้นในวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่ต้นธ.ค. 2020 หลังจากความเห็นของนางคริสติน  ลาการ์ดประธาน ECB กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจเร่งคุมเข้มนโยบายขึ้นเร็งกว่าการคาดการณ์เดิม
 
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศนโยบายการเงินท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 5 ปี เพิ่มขึ้น 16 bps เป็น -0.07% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 เพิ่มขึ้น 12 bps เป็น 0.15% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2019 หลังจากตลาดเงินคาดการณ์ว่า ECB จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยต่างๆจะกดดัน DXY แต่ในด้าน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ย. 
 
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 3.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นเฟซบุ๊กทรุดตัวลงกว่า 26% และฉุดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียรายอื่น ๆ ดิ่งลงด้วย
 
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 518.17 จุด หรือ -1.45%, ดัชนี S&P500 ปิด -2.44% และดัชนี Nasdaq ปิด -3.74% หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง สกัดช่วงลบ DXY
 
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียสั่งเคลื่อนกำลังพลราว 30,000 นาย พร้อมอาวุธสมัยใหม่เข้าสู่เบลารุสในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยนับเป็นการเคลื่อนกำลังทหารมากที่สุดไปยังประเทศดังกล่าวหลังสิ้นสุดสงครามเย็น  
 
กองทัพอากาศอังกฤษ เปิดเผยวานนี้ว่า กองทัพได้ส่งเครื่องบินขับไล่เพื่อสกัดเครื่องบินทหารของรัสเซีย 4 ลำที่มุ่งหน้าเข้าใกล้น่านฟ้าของอังกฤษ  
 
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลง 0.67% แตะที่ 95.353 เมื่อคืนนี้ โดยปัจจุบันได้ปรับตัวลงต่อเล็กน้อย และทรงตัวอยู่ที่ระดับ 95.217 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตามทิศทางภาพรวมใหญ่ยังวิ่งในลักษณะ Uptrend (ดูจากการตีเทรนด์ไลน์ + ยังไม่สามารถทำ Low ต่ำกว่าระดับ 94.608 ได้) แต่ภาพระยะสั้น ยังมีน้ำหนักไปทางฝ่าย Sell หลังจากปรับตัวลงต่อเนื่อง 6 วันติด จากจุดสูงสุดที่ระดับ 97.433 และวานนี้ก็ได้ทะลุแนวรับที่ระดับ 95.438 แล้ว อย่างไรก็ดีหากกราฟไม่สามารถขึ้นมายืนเหนือแนวต้านที่ระดับ 95.687 ได้ ก็มีโอกาสร่วงลงไปเทสแนวรับ และ Supply Zone บริเวณระดับ 95.130 / 94.915 / 94.608 ตามลำดับ 
แนวต้านสำคัญ : 95.438 / 95.687 / 95.950
แนวรับสำคัญ : 95.130 / 94.915 / 94.608
 
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES