กิจกรรมยูโรโซนหดตัว มุมมองเชิงบวกนักลงทุนช่วยกระตุ้นตลาดจังก์บอนด์

ภาคการผลิตทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายในช่วงปลายปี 2023 จากกิจกรรมยูโรโซนหดตัวเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโรงงานหลายแห่งระบุถึงการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวล่าช้าที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ โรงงานในยูโรโซนหดตัวปิดท้ายปี โดยเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม เผชิญกับกิจกรรมการผลิตที่ลดลง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากเศรษฐกิจในยูโรโซนหดตัว 0.1% ในไตรมาสที่สาม ขณะที่ผู้นำสถาบันต่างๆ ของสหภาพยุโรปเรียกร้องให้มีการผลักดันเงินยูโรให้แข็งค่าขึ้น และเดินหน้าไปสู่ความร่วมมือในตลาดทุน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือท่ามกลางความท้าทายต่างๆ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์เกิดขึ้นหลังจากร่วงลงหนักก่อนหน้านี้ ซึ่งนับเป็นการลดลงรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการสังหารรองผู้นำกลุ่มฮามาส ซาเลห์ อัล-อารูรี ในเลบานอน มีส่วนทำให้อารมณ์ของตลาดซบเซา และส่งผลกระทบต่อตลาดสกุลเงิน

ในขณะเดียวกัน ระดับหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ตามรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ท่ามกลางการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นและความท้าทายทางการเมือง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางการคลังที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่สภาคองเกรสยังคงเผชิญกับกำหนดเวลาในการใช้จ่ายของรัฐบาลและการต่อสู้ด้านเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ มุมมองเชิงบวกของนักลงทุนเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ช่วยกระตุ้นตลาดตราสารหนี้ขยะ และช่วยบรรเทาความท้าทายให้กับบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตต่ำ โดยความคาดหวังของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาระสเปรดของพันธบัตรขยะปรับลดลงได้มากขึ้น ท่ามกลางกลยุทธ์ทางการเงินที่หลากหลาย เช่น การแลกเปลี่ยนพันธบัตรที่ใกล้ครบเวลาและการขยายระยะเวลาชำระหนี้ ส่งผลให้อัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่คาดหวังค่อนข้างต่ำ แม้ว่าจะยังคงมีความเสี่ยง

ทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบสัญญาณเชิงบวกในช่วงต้นปี 2024 จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุด การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่แท้จริง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสภาทำเนียบขาวเน้นย้ำการคาดการณ์ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับปรุงดีขึ้นและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในเชิงบวก ขณะที่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในยูเครน และการหยุดชะงักในทะเลแดง ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกจับตามอง

อีกด้าน การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่การปรับเพิ่มในเดือนก่อนชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในภาคส่วน โดยภาคธุรกิจการก่อสร้างยังคงได้รับประโยชน์จากกิจกรรมที่แข็งแกร่งในกลุ่มที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวเดี่ยว และการริเริ่มในการนำการผลิตเซมิคอนดักเตอร์กลับมายังสหรัฐฯ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะสามารถฟื้นคืนเสถียรภาพแม้จะยังคงมีความท้าทาย โดยคาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะมีส่วนสนับสนุนเชิงบวกใน GDP ในไตรมาสที่สี่

ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ แอตแลนตาคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่สี่ในปี 2023 จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 2.3% ต่อปี หลังจากการเติบโตที่แข็งแกร่ง 4.9% ในไตรมาสที่สาม โดยรัฐบาลมีกำหนดเปิดเผยประมาณการเบื้องต้นสำหรับ GDP ไตรมาสที่ 4 ในปลายเดือนนี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายคาดว่าต้นทุนการกู้ยืมจะลดลงในปี 2024

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (15Min) CFD EUR/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.0938, 1.0941, 1.0944

แนวรับสำคัญ : 1.0932, 1.0929, 1.0926                 

15Min Outlook      

ที่มา: Investing.com                                     

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0928 - 1.0932 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0932 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0941 และ SL ที่ประมาณ 1.0926 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0938 - 1.0942 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0950 และ SL ที่ประมาณ 1.0930 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0938 - 1.0942 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0938 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0932 และ SL ที่ประมาณ 1.0944 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0928 - 1.0932 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0924 และ SL ที่ประมาณ 1.0940 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 04, 2024 02:27PM GMT+7

ที่มา: Investing 1, Investing 2