ตลาดข้าวสาลีโลกเผชิญแรงกดดันจากสภาพอากาศ การส่งออก และนโยบาย

ตลาดข้าวสาลีโลกกำลังเผชิญแรงกดดันจากการขายที่ขับเคลื่อนด้วยเทคนิคและเงินทุน โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้การส่งออกของสหรัฐฯ มีความสามารถในการแข่งขันน้อยลง นอกจากนี้ ราคาข้าวสาลีขัดสีในปารีสที่ลดลงและมุมมองที่ระมัดระวังก่อนการรายงานสำคัญของ USDA ยังสะท้อนถึงความเปราะบางของตลาด แม้ว่าหิมะในที่ราบของสหรัฐฯ จะช่วยปรับปรุงความชุ่มชื้นในดินและสภาพข้าวสาลีฤดูหนาว แต่ผู้เล่นในตลาดยังคงให้ความสนใจกับกิจกรรมการส่งออกของรัสเซีย ความมั่นคงทางการเกษตรของยูเครน และผลผลิตในอาร์เจนตินาและออสเตรเลีย ขณะที่สต็อกข้าวสาลีฮาร์ดสปริงของสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ แต่ยังคงต่ำกว่าปีที่แล้วอย่างมาก สะท้อนถึงความท้าทายด้านอุปทานในระยะยาว

ด้านยูเครน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาดส่งออกธัญพืชโลก ได้เพิ่มการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญในฤดูกาลนี้ โดยส่งออกธัญพืชและพืชตระกูลถั่วจำนวน 22.442 ล้านตัน ณ วันที่ 8 มกราคม เพิ่มขึ้นจาก 19.422 ล้านตันในปีก่อนหน้า โดยการส่งออกหลักของยูเครน ได้แก่ ข้าวสาลี 9.977 ล้านตัน และข้าวโพด 10.162 ล้านตัน แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของยูเครนยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในการรักษาสมดุลของอุปทานธัญพืชโลก ขณะที่การส่งออกแป้ง แม้จะมีปริมาณน้อยลง แต่ก็ยังคงคงที่และส่วนใหญ่ผลิตจากข้าวสาลี

สำหรับจีน ในฐานะผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเปลี่ยนมุ่งเน้นไปที่ความมั่นคงด้านธัญพืชในประเทศ ผ่านแผนปฏิบัติการปี 2024–2035 แม้จะผลิตธัญพืชได้สูงถึง 652 ล้านตันในปี 2024 แต่จีนยังคงพึ่งพาการนำเข้าข้าวสาลีคุณภาพสูงจากแคนาดา ออสเตรเลีย และรัสเซียอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและอุตสาหกรรม โดยแผนดังกล่าวเน้นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์สู่การพึ่งพาตนเอง โดยมุ่งเพิ่มคุณภาพการผลิตในประเทศ สร้างความตระหนักรู้ในประโยชน์ของธัญพืช และบูรณาการธัญพืชเข้าสู่นโยบายอาหารระดับชาติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความเปราะบางของจีนต่อความผันผวนของตลาดโลก และส่งเสริมเศรษฐกิจธัญพืชที่ยั่งยืนมากขึ้น

ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นปี 2025 ด้วยแนวโน้มขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านสภาพอากาศในภูมิภาคผู้ผลิตสำคัญ เช่น รัสเซียและอาร์เจนตินา ขณะที่ราคาข้าวสาลีอาหารสัตว์ในสหราชอาณาจักรแตะระดับเกิน £180 ต่อตัน ณ ไร่ ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ซึ่งยังคงใกล้เคียงกับระดับปีที่แล้ว ท่ามกลางฟิวเจอร์สสำหรับเดือนพฤษภาคมที่เปิดที่ £190 ต่อตัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยในปี 2025 การผลิตธัญพืชในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรถูกคาดการณ์ที่ 298 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 278.5 ล้านตันในปี 2024 โดยผลผลิตข้าวสาลี (ยกเว้นดูรัม) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 140.4 ล้านตัน เนื่องจากพื้นที่ปลูกที่ขยายตัวและสมมติฐานผลผลิตเฉลี่ย

ด้านการซื้อขายข้าวสาลีในสหรัฐฯ แสดงผลการดำเนินงานที่หลากหลาย โดยราคาฟิวเจอร์สของ Chicago SRW, KC HRW และ MPLS spring wheat มีการลดลงในช่วงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางการส่งออกข้าวสาลีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ 1.417 ล้านตัน นำพาการส่งออกในครึ่งแรกของปีการตลาดไปที่ 425 ล้านตัน โดยก่อนรายงานการเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวของ USDA ความคาดหวังของตลาดส่งสัญญาณถึงการลดลงเล็กน้อยของพื้นที่เพาะปลูกเหลือ 33.366 ล้านเอเคอร์

อย่างไรก็ดี ความกังวลด้านสภาพอากาศในภูมิภาคสำคัญและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีผลกระทบต่อราคาข้าวสาลีโลก การส่งออกที่ลดลงจากยูเครนและรัสเซียคาดว่าจะถูกชดเชยบางส่วนด้วยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากอาร์เจนตินาและออสเตรเลีย ขณะที่ในยุโรป การส่งออกข้าวสาลีอ่อนของสหภาพยุโรปอยู่ที่ 11.16 ล้านตัน ณ วันที่ 5 มกราคม ลดลง 33.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางผู้ซื้อจากเกาหลีใต้ที่สั่งซื้อข้าวสาลี 125,000 ตัน โดย 60,000 ตันคาดว่าจะมาจากสหรัฐฯ

ทั้งนี้ การคาดการณ์ถึงปริมาณฝนในอาร์เจนตินาได้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับความแห้งแล้งที่เคยสนับสนุนราคาธัญพืชในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดข้าวสาลีคาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนชั่วคราวจากปัญหาการผลิตในภูมิภาค เช่น การประเมินผลผลิตข้าวสาลีในรัฐแคนซัสที่ลดลง และความผันผวนในด้านการส่งออก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US Wheat Futures - Mar 25 (ZWH5)

แนวต้านสำคัญ : 542.12, 544.22, 547.62

แนวรับสำคัญ : 535.32, 533.22, 529.82       

1D Outlook                     

ที่มา: TradingView                  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 529.32 - 535.32 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 535.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 542.12 และ SL ที่ประมาณ 523.32 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 542.12 - 548.12 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 556.00 และ SL ที่ประมาณ 532.32 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 542.12 - 548.12 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 542.12 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 533.04 และ SL ที่ประมาณ 551.12 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 529.32 - 535.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 522.00 และ SL ที่ประมาณ 545.12 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 9, 2025 09:10AM GMT+7