บทวิเคราะห์ USD/CNY 28 พฤศจิกายน 2567

Create at 1 week ago (Nov 28, 2024 20:18)

ธุรกิจบางประเภทของจีนยังคงซบเซา

ค่าเงินหยวนยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 7.25 หยวนต่อดอลลาร์ เนื่องจากความเชื่อมั่นยังคงอ่อนแอหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมดเพิ่มอีก 10% เมื่อเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม โดยการประกาศดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าอาจเกิดการหยุดชะงักของการค้าซึ่งอาจรวมไปถึงราคาสินค้านำเข้าที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนี้ จัดส่งผลกระทบไปยังเม็กซิโกและแคนาดาโดยตรงเนื่องจากมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นถึง 25% 

ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจของจีนเผยให้เห็นว่ากำไรภาคอุตสาหกรรมในจีนลดลง 4.3% ทำให้นักลงทุนยังคงมีความกังวลว่าเศรษฐกิจของจีนจะไม่สามารถเติบโตได้เทียบเท่ากับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยอุปสงค์ที่อ่อนแอ, แรงกดดันด้านภาวะเงินฝืดและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหันมาให้ความสนใจข้อมูล PMI ของจีนที่จะมีการประกาศในเร็วๆ นี้ เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมไปถึงการคาดการณ์มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต 

ด้านตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนบางส่วนที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการดำเนินนโยบายที่มีอยู่อย่างรวดเร็วและการเปิดตัวมาตรการใหม่หลายรายการในเดือนตุลาคมซึ่งรวมไปถึงการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาล เช่น ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ได้รับแรงหนุนจากวันหยุดยาว 1 สัปดาห์และเทศกาลชอปปิ้งล่าสุด ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานที่สำรวจลดลงเหลือ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยสำนักงานสถิติได้แสดงความคิดเห็นว่าความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติได้เตือนถึงความท้าทายในประเทศและระดับโลกที่ยังคงดำเนินอยู่และอาจแนะนำให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตประจำปี

ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBoC) ได้ตัดสินใจอัดฉีดเงินเข้าระบบสถาบันการเงินเป็นมูลค่ารวม 9 แสนล้านหยวนผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะเวลา 1 ปี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเป็นการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ 2.0% การตัดสินใจดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความต้องการในการสร้างสภาพคล่องให้เศรษฐกิจภายในประเทศแล้วต้องการให้ผู้ที่เข้ามากู้ยืมมีโอกาสกู้ยืมวงเงินที่มีปริมาณมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การปรับดอกเบี้ย MLF  2 เดือนติดต่อกันหลังจากที่ปรับลดลง 30 bps  ในเดือนกันยายน ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอาจมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอีกหลายครั้งในปีหน้า 

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารกลางอยากได้ตัดสินใจออกมาตรการสนับสนุนต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่กำลังซบเซา ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยที่ใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อย ซึ่งรวมไปถึงการใช้เครื่องมือเพิ่มสภาพคล่องต่างๆ ในการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน โดยดูได้จากการอัดฉีดเงินหลายล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงินในช่วงเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้มีการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมด้วย 

กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมของจีนลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือ 5.8 ล้านล้านหยวนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2024 โดยการลดลงนี้ยังคงสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักยังคงเกิดจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ รวมไปถึงภาวะเงินฝืดที่ทำให้ประชาชนรวมถึงบริษัทต่างๆ เกิดการใช้จ่ายที่น้อยลง ในขณะเดียวกัน กำไรของบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของลดลงอีก 8.2% หลังจากลดลง 6.5% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตที่น้อยลงแม้ว่าจะได้รับการกระตุ้นจากมาตรการของรัฐและการเพิ่มการลงทุนจากรัฐบาลก็ตาม

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.2547, 7.2579, 7.2626

แนวรับสำคัญ: 7.2468, 7.2421, 7.2389

บทวิเคราะห์ USD/CNY วันนี้

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.2421 - 7.2468 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.2468 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2579 และ SL ที่ประมาณ 7.2389 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2547 - 7.2579 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2626 และ SL ที่ประมาณ 7.2421 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2547 - 7.2579 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.2547 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2421 และ SL ที่ประมาณ 7.2626 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.2421 - 7.2468 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2389 และ SL ที่ประมาณ 7.2579 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 28 พฤศจิกายน 2567 20:10 น. GMT+7

ชื่อ
S3
S2
S1
จุดกลับตัว
R1
R2
R3
Classic 7.2389 7.2421 7.2468 7.25 7.2547 7.2579 7.2626
Fibonacci 7.2421 7.2451 7.247 7.25 7.253 7.2549 7.2579
Camarilla 7.2494 7.2502 7.2509 7.25 7.2523 7.253 7.2538
Woodie's 7.2397 7.2547 7.2476 7.2504 7.2555 7.2583 7.2634
DeMark's - - 7.26264 7.2508 7.2564 - -
______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES