ตลาดข้าวสาลีลดลงท่ามกลางสภาพอากาศโลก ราคาขาขึ้นคาดถูกจำกัด

ตลาดข้าวสาลีปรับตัวลดลง โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเทคนิคและปัญหาสภาพอากาศโลกที่ถูกมองข้าม ท่ามกลางสภาวะแห้งแล้งในบางส่วนของที่ราบทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และภูมิภาคทะเลดำ ในขณะที่ปริมาณฝนที่มากเกินไปส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางตะวันออกของมิดเวสต์ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ และยุโรปตะวันตก โดยปริมาณน้ำฝนมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความล่าช้าในการเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิในที่ราบทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา แม้ว่าสภาพความชื้นในดินจะปรับปรุงดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาที่อาจเกิดขึ้นนั้นคาดว่าจะถูกจำกัดจากความต้องการส่งออกข้าวสาลีของสหรัฐฯ ที่ซบเซา ขณะที่รัสเซียและยูเครนยังคงครองส่วนแบ่งในตลาดโลก และ ANEC ของบราซิลคาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวสาลีในเดือนเมษายนจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อน

ทางด้านตัวเลขยอดขายรายสัปดาห์ของ USDA ระบุว่าการใช้ข้าวสาลีเพื่อการผลิตแป้งลดลงในปี 2023 โดยคาดว่าการบริโภคภายในประเทศจะลดลง และสต็อกคงคลังจะเพิ่มขึ้นสำหรับปีการตลาด 2023/24 ขณะที่แนวโน้มข้าวสาลีทั่วโลกประกอบด้วยอุปทาน การบริโภค และการส่งออกที่มากขึ้น โดยคาดว่าสต็อกคงคลังจะลดลง โดยรัสเซียและยูเครนคาดว่าจะเพิ่มการส่งออก ในขณะที่สหภาพยุโรปเผชิญกับการแข่งขันจากภูมิภาคทะเลดำ ซึ่งโดยรวมแล้ว สต็อกคงคลังทั่วโลกสำหรับปี 2023/24 คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และอาจถึงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2015/2016

อย่างไรก็ดี ในขณะที่ปีการตลาด 2023/24 เข้าสู่ช่วงหกสัปดาห์สุดท้าย ผู้ซื้อจำนวนมากได้เข้าซื้อพืชผลสำหรับล็อตการจัดส่งเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม และเปลี่ยนความสนใจไปที่ยอดขายข้าวสาลีใหม่ในสหรัฐฯ ในปี 2024/25 ซึ่งพบการเติบโตที่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตลอดปี 2023/24 สภาวะตลาดได้เอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อ โดยราคาส่งออก FOB ข้าวสาลีของสหรัฐฯ ลดลง 15% โดยเฉลี่ย เนื่องจากการแข่งขันจากทะเลดำ โดยเฉพาะจากข้าวสาลีของรัสเซีย ซึ่งยังคงราคาที่ถูกที่สุดทั่วโลก โดยแม้ว่าราคาข้าวสาลีของสหรัฐฯ จะลดลง แต่การส่งออกข้าวสาลีทั้งสองประเภทของสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ Soft Red Winter (SRW) และ Hard Red Spring (HRS) ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบจีนนำเข้า SRW และ HRS มากกว่า 1.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเชิงบวกที่เกิดขึ้นนี้ ก็ไม่ได้ชดเชยการส่งออกข้าวสาลี Hard red winter (HRW) และข้าวสาลี Soft white (SW) ที่ลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ ความคาดหวังสำหรับยอดขายในปี 2023/24 คาดว่าจะลดลงมากขึ้น ขณะที่ลูกค้าจัดซื้อพืชผลสำหรับล็อตการจัดส่งเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม โดยแม้จะพบการส่งออกที่เพิ่มขึ้นสำหรับข้าวสาลีบางประเภท แต่ USDA คาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวสาลีจะไปถึงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1971/72 และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มสำหรับปีการเพาะปลูกใหม่ในปี 2024/25 คาดว่าจะเป็นไปในแง่ดีมากขึ้น โดยผู้ซื้อคาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาที่ต่ำลงและการซื้อล็อตจัดส่งล่วงหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เมษายน ยอดขายในปี 2024/25 อยู่ที่ 2.1 ล้านตัน และนับว่าเร็วกว่าปีที่แล้วอย่างมาก

ทางด้านเกาหลีใต้ขึ้นนำในฐานะผู้ซื้อข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยพบยอดซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ ผู้ซื้อพืชผลใหม่รายใหญ่อื่นๆ เช่น ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก และญี่ปุ่น พบการซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยบางส่วนมีสาเหตุมาจากความต้องการของลูกค้าที่สม่ำเสมอ รวมถึงข้อได้เปรียบด้านราคาที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

โดยสัญญาซื้อขายข้าวสาลีล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ถึงความสนใจของตลาดเกี่ยวกับความกังวลเรื่องสภาพอากาศในซีกโลกเหนือ โดยแม้ว่าราคาจะตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2021 แต่มีการคาดการณ์ว่าราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องอาจชะลอตัวลงจากปัจจัยต่างๆ เช่น รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน สภาพอากาศที่แห้งแล้งที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลี HRW ของสหรัฐฯ รวมถึงศักยภาพในการนำเข้าข้าวสาลีของอินเดียเนื่องจากสต็อกพืชผลของรัฐบาลที่ลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาวหรือไม่

ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีล่าสุดแตะระดับแนวรับที่สำคัญที่ 597.10 ดอลลาร์ และแสดงการเคลื่อนไหวเชิงบวกชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ดัชนีบ่งชี้แบบสุ่มชี้ถึงการสูญเสียโมเมนตัมเชิงบวก และบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการกลับไปสู่การซื้อขายขาลง โดยกรอบเป้าหมายหลักถัดไปสำหรับการเคลื่อนไหวขาลงอยู่ที่ 583.50 ดอลลาร์ ท่ามกลางแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง เว้นแต่ราคาจะสามารถทะลุและอยู่เหนือ 614.10 ดอลลาร์ได้ โดยช่วงการซื้อขายที่คาดการณ์ไว้ในช่วงนี้อยู่ระหว่างแนวรับที่ 590.00 ดอลลาร์และแนวต้านที่ 614.00 ดอลลาร์

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US Wheat Futures - Jul 24 (ZWN4)

แนวต้านสำคัญ : 606.33, 609.92, 615.75

แนวรับสำคัญ : 594.67, 591.08, 585.25             

1D Outlook           

ที่มา: TradingView               

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 584.67 - 594.67 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 594.67 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 607.50 และ SL ที่ประมาณ 579.67 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 606.33 - 616.33 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 622.15 และ SL ที่ประมาณ 589.67 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 606.33 - 616.33 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 606.33 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 592.25 และ SL ที่ประมาณ 621.33 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 584.67 - 594.67 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 576.80 และ SL ที่ประมาณ 611.33 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points May 2, 2024 09:53AM GMT+7