เงินรูปีของอินเดียอ่อนค่าลงเกิน 82.9 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากการประกาศอัตราเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกินคาดในสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เงินรูปียังคงมีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นของตลาดต่างประเทศในพันธบัตรรัฐบาล นอกจากนี้ GDP ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งยังช่วยสนับสนุนให้ค่าเงินรูปีมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นด้วย
เศรษฐกิจอินเดียขยายตัว 8.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 สูงขึ้นจาก 8.1% ในไตรมาสที่ 3 และสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 6.6% โดยภาคบริการยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ 6.7% โดยภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้ดี นอกจากนี้ ภาคการผลิตยังสามารถเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักที่ 11.6% ในทางกลับกัน ภาคเกษตรกรรมหดตัว 0.8% จากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและผลกระทบเอลนิโญ่ทำให้จำนวนผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
การขาดดุลการคลังของอินเดียลดลงเหลือ 11.03 ล้านล้านรูปีในเดือนเมษายนของปี 2022 ถึงมกราคม 2023 ลดลงจาก 11.91 ล้านล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า รายจ่ายโดยรวมจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น 5.9% เป็น 33.55 ล้านล้านรูปี ในขณะที่รายรับเพิ่มขึ้น 13.9% เป็น 22.52 ล้านล้านรูปี นอกจากนี้อินเดียยังได้สรุปปีงบประมาณปัจจุบันด้วยการขาดดุลงบประมาณที่ 5.9% ของ GDP และในปีหน้าจะลดการขาดดุลงบประมาณเหลือเพียง 5.1% ของ GDP เท่านั้น
อัตราเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อยที่ 5.09% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เทียบกับ 5.1% ในเดือนมกราคมโดยอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องที่ 8.66% สูงกว่า 8.3% ในเดือนมกราคม ซึ่งสาเหตุหลักมาจากราคาผักที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 30.3% ราคาเครื่องเทศเพิ่มขึ้น 13.5% และราคาผลไม้เพิ่มขึ้น 4.8% ในขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้าลดลงเล็กน้อยที่ 0.8% หลังจากที่ลดลง 0.6%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 7.04% เป็นการเพิ่มขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดในสหรัฐฯ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของหลายประเทศจะสูงขึ้น แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของอินเดียยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในตลาดตราสารหนี้ของประเทศ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการเติบโตที่มั่นคง
แนวต้านสำคัญ: 82.93, 82.942, 82.964
แนวรับสำคัญ: 82.896, 82.874, 82.862
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 82.874 - 82.896 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 82.896 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 82.942 และ SL ที่ประมาณ 82.862 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 82.93 - 82.942 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 82.964 และ SL ที่ประมาณ 82.874 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 82.93 - 82.942 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 82.93 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 82.874 และ SL ที่ประมาณ 82.964 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 82.874 - 82.896 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 82.862 และ SL ที่ประมาณ 82.942 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 18 มีนาคม 2567 21:36 น. GMT+7
|
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
| Classic | 82.862 | 82.874 | 82.896 | 82.908 | 82.93 | 82.942 | 82.964 |
| Fibonacci | 82.874 | 82.887 | 82.895 | 82.908 | 82.921 | 82.929 | 82.942 |
| Camarilla | 82.91 | 82.913 | 82.916 | 82.908 | 82.922 | 82.926 | 82.929 |
| Woodie's | 82.868 | 82.877 | 82.902 | 82.911 | 82.936 | 82.945 | 82.97 |
| DeMark's | - | - | 82.903 | 82.912 | 82.937 | - | - |
List of content
FXtoday.news เป็นเพียงเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสาร และให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดทางการเงิน โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชักนำหรือเชิญชวน ในการลงทุนแต่อย่างใด
