ตำแหน่งงานว่างอังกฤษแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ตลาดสหรัฐฯ พร้อมรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น

ในเดือนกุมภาพันธ์ นายจ้างในประเทศอังกฤษประกาศรับสมัครงานเป็นจำนวนน้อยที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยลดลง 15% จากปีก่อนหน้า ตามข้อมูลจากบริษัทจัดหางาน Adzuna โดยตำแหน่งงานว่างที่ลดลงนี้ส่งสัญญาณถึงแรงผ่อนคลายในการสรรหาแรงงาน เมื่อเทียบกับผลพวงของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ซึ่งตำแหน่งงานว่างพุ่งสูงสุดที่มากกว่า 1.3 ล้านคน ในขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติยังรายงานถึงตำแหน่งงานว่างที่ลดลงถึง 18% ต่อปีในช่วงสามเดือนที่สิ้นสุดในเดือนมกราคม

ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราการว่างงานอย่างเป็นทางการจะอยู่ที่ 3.8% แต่แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษได้เปิดรับข้อมูลดังกล่าวที่เรียกว่าการจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบด้วยความยินดี อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางตั้งเป้าที่จะชะลอการเติบโตของค่าจ้างจากอัตราปัจจุบันที่มากกว่า 6% เพื่อลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งยังคงมากกว่ากรอบเป้าหมายถึงสองเท่า

ทางด้านเดฟ แรมสเดน รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ แสดงความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง และระบุถึงความจำเป็นในการได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่จะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร

โดยธนาคารแห่งอังกฤษคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมาย 2% ได้ในไตรมาสที่สองของปี 2024 แต่คาดว่าอัตราจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.75% ในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ท่ามกลางการลดลงของยอดขายค้าปลีกในอังกฤษที่ผ่อนคลายลงในเดือนกุมภาพันธ์ และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในจุดต่ำสุดในรอบเกือบสามปี โดยแม้ว่าจะพบภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว แต่ยอดค้าปลีกในเดือนมกราคมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่สุดในรอบเกือบสามปี

ในสหรัฐอเมริกา ค่าเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัวเนื่องจากนักลงทุนยังคงเพิกเฉยต่อข้อมูลสินค้าคงทนที่เปิดเผยล่าสุด และยังคงรอข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้ เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในเดือนกุมภาพันธ์หลังจากที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันสามเดือน สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานและความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ

ทั้งนี้ การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 5.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมลดลง โดยยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ผลิตในสหรัฐฯ ลดลงมากที่สุดในรอบเกือบสี่ปีในเดือนมกราคม ส่งสัญญาณถึงการสูญเสียโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ ขณะที่การลงทุนทางธุรกิจในเครื่องมือและอุปกรณ์ดูเหมือนจะผ่อนคลายลง พร้อมด้วยข้อมูลค้าปลีก โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และการผลิตที่อ่อนตัวลง

อย่างไรก็ดี แม้นักวิเคราะห์บางส่วนจะอ้างถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และความท้าทายในการปรับข้อมูลที่มีความผันผวนตามฤดูกาล แต่นักเศรษฐศาสตร์ยังคงไม่ได้คาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ โดยแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะเริ่มการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ผู้กำหนดนโยบายยังคงระบุถึงการใช้ความระมัดระวัง โดยตลาดปัจจุบันปรับลดความคาดหวังสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม และพบความเป็นไปได้ 51% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน  

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2676, 1.2678, 1.2681

แนวรับสำคัญ : 1.2670, 1.2668, 1.2665                           

1H Outlook            

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2665 - 1.2670 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2670 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2676 และ SL ที่ประมาณ 1.2663 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2676 - 1.2681 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2685 และ SL ที่ประมาณ 1.2668 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2676 - 1.2681 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2676 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2668 และ SL ที่ประมาณ 1.2683 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2665 - 1.2670 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2660 และ SL ที่ประมาณ 1.2678 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 28, 2024 10:01AM GMT+7