ตลาดโลกเผชิญความท้าทายท่ามกลางความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย จับตาดูผลประกอบการ Nvidia และ Walmart

ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายในวันจันทร์ จากความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในช่วงต้นปีลดลง ขณะที่ตลาดจีนกลับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหลังวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติ ท่ามกลางกิจกรรมการซื้อขายของตลาดสหรัฐฯ ที่เบาบางเนื่องจากวันหยุดที่ผ่านมา โดยตลาดยังคงมุ่งเน้นไปที่รายงานผลประกอบการของ Nvidia บริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ในวันพุธ ซึ่งอาจส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ตลาดฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในการซื้อขายเซสชั่นเอเชียเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย โดยความคาดหวังต่อรายงานผลประกอบการที่สำคัญ โดยเฉพาะจาก Nvidia ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดลดลงวันก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาที่ร่วงลงในกลุ่มเทคโนโลยี โทรคมนาคม และสินค้าอุปโภคบริโภค

นอกจากนี้ การลดลงของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์มีสาเหตุมาจากข้อมูลเงินเฟ้อของดัชนีราคาผู้ผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมกราคม หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นระยะเวลาที่ขยายออกไป และข้อมูลรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลง ซึ่งบ่งชี้ถึงโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแสดงความแข็งแกร่งและการเติบโตของค่าจ้างที่สูงขึ้น ทำให้เกิดเสถียรภาพต่อตลาด

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นของตลาดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเห็นได้ชัดจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในปี 2024 ที่ 4.72% ในวันศุกร์ ในขณะที่ตลาดฟิวเจอร์สตั๋วคลังยังคงค่อนข้างทรงตัวในวันจันทร์ โดยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอัตรายังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามอง

อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นในตลาดวอลล์สตรีทเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับแรงผลักดันจากภาคเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความต้องการปัญญาประดิษฐ์ โดย Nvidia ซึ่งเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด คาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาสสี่ ซึ่งถือเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับมุมมองเชิงบวกต่อ AI ส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้น และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มขึ้นของ S&P 500 นอกจากนี้ Walmart ผู้เล่นหลักอีกรายซึ่งมีกำหนดรายงานผลประกอบการ โดยคาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

ในขณะที่รายงานผลประกอบการของ Nvidia และ Walmart ที่กำลังจะเปิดเผย และอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การรายงานเชิงบวกอาจกระตุ้นให้เกิดแรงผลักดันในตลาด ขณะที่รายงานเชิงลบอาจส่งผลกระทบได้ในวงกว้าง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจากข้อมูล PMI ที่ได้ส่งผลต่อบริบทที่กว้างขึ้น โดยแม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะคลี่คลายลง แต่ความท้าทายยังคงมีอยู่ในบางภูมิภาค ท่ามกลางความแข็งแกร่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดเกิดใหม่นอกประเทศจีน

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างตั้งตารอรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าสุดเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต โดยเจ้าหน้าที่เฟดสำคัญๆ หลายคนมีกำหนดให้ความเห็นในระหว่างสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับยอดขายบ้านมือสองและการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 38596.3, 38628.7, 38681.0

แนวรับสำคัญ : 38491.7, 38459.3, 38407.0                   

5H Outlook

ที่มา: Investing.com                                                         

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 38391.7 - 38491.7 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 38491.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38596.3 และ SL ที่ประมาณ 38341.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 38596.3 - 38696.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38731.0 และ SL ที่ประมาณ 38441.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 38596.3 - 38696.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 38596.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38491.7 และ SL ที่ประมาณ 38746.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 38391.7 - 38491.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38320.5 และ SL ที่ประมาณ 38646.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 20, 2024 09:45AM GMT+7