บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นเอเชีย วันที่ 17 ตุลาคม 2566

Create at 6 months ago (Oct 17, 2023 10:30)

ตลาดเอเชียใช้ความระมัดระวัง ท่ามกลางความกังวลทั่วโลกและความตกต่ำทางเศรษฐกิจจีน

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเซสชั่นในวันจันทร์ที่ผ่านมา ในขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขาย หลังจากตลาดหุ้นในวอลล์สตรีทร่วงและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในวันศุกร์ ท่ามกลางฉากหลังของความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และการคาดการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนในปลายสัปดาห์นี้ โดยมื่อวันศุกร์ ตลาดหุ้นเอเชียเผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นำโดยจีน หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนกันยายนไม่พบการเติบโต ในขณะที่นักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากประเทศจีนอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ทางด้านสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส ได้สร้างความกังวลใจแก่ตลาด โดยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์นี้ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่เปราะบางในตลาดเอเชีย และเป็นผลให้ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นลดลงมากถึง 2%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่าการฟื้นตัวที่อ่อนแอของจีนและความเสี่ยงของวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้ออาจส่งผลเสียต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเอเชีย IMF ตั้งข้อสังเกตว่าการส่งเสริมเศรษฐกิจหลังล็อกดาวน์ของจีนได้สูญเสียโมเมนตัมเร็วกว่าที่คาดไว้ ในขณะที่จำนวนสินเชื่อธนาคารใหม่ของประเทศจีนในเดือนกันยายนอ่อนตัวกว่าที่คาด โดยสินเชื่อภาคครัวเรือน รวมถึงการจดจำนอง เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และในขณะเดียวกัน ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียยังคงแข็งแกร่งขึ้น จากการส่งออกและนำเข้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วระหว่างทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก IMF ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเอเชียในปีหน้าลงเหลือ 4.2% โดยเน้นย้ำถึงผลกระทบที่สำคัญจากการชะลอตัวของจีนที่อาจมีต่อเศรษฐกิจโลก โดย IMF เรียกร้องให้ธนาคารกลางในเอเชียใช้ความระมัดระวัง โดยแนะนำว่าไม่ควรรีบเร่งในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มบรรเทาลง

ทางด้านเศรษฐกิจของสิงคโปร์มีการเติบโตที่ดีกว่าคาดในไตรมาสที่สาม ในขณะที่อินเดียเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อค้าปลีกที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนในเดือนกันยายน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของอินเดียยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 4%

ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของ IMF การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นไปที่ภาคบริการ และไม่ได้กระตุ้นความต้องการในการนำเข้าหรือส่งออก ได้หนุนเศรษฐกิจเอเชียน้อยกว่าในอดีต นอกจากนี้ โดยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางในเอเชียได้พยายามปกป้องสกุลเงินของตนอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า ส่งผลให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน และยังคงยังพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาดเพื่อควบคุมการไหลออกของเงินทุน

ด้วยเหตุนี้ สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียจึงประสบกับความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ โดยติดอยู่ระหว่างความพยายามของจีนในการปกป้องเงินหยวนและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กดดันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงนี้ก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลตอบแทนที่ลดลงในตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้น

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญจากญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และอินเดียอย่างใกล้ชิด ซึ่งในวันพุธ จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน รวมถึงการว่างงาน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และตัวเลขการลงทุนทางธุรกิจในเดือนกันยายน พร้อมด้วย GDP ไตรมาสที่สาม โดยรายงานข้อมูลเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและการตัดสินใจลงทุนในภูมิภาคต่อไป จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นทรงตัวในช่วงนี้ ในขณะที่มีแนวโน้มถูกกดดันในระยะยาวจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD JP225 Nikkei 225 Futures - Dec 23

แนวต้านสำคัญ : 32179.0, 32251.0, 32367.5

แนวรับสำคัญ : 31946.0, 31874.0, 31757.5                    

5H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นเอเชีย ที่มา: Investing.com                                              

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 31796.0 - 31946.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 31946.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 32179.0 และ SL ที่ประมาณ 31746.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 32179.0 - 32329.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 32367.0 และ SL ที่ประมาณ 31896.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 32179.0 - 32329.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 32179.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 31870.0 และ SL ที่ประมาณ 32379.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 31796.0 - 31946.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 31758.0 และ SL ที่ประมาณ 32229.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Oct 17, 2023 09:30AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 31565 31757.5 31870 32062.5 32175 32367.5 32480
Fibonacci 31757.5 31874 31946 32062.5 32179 32251 32367.5
Camarilla 31898.6 31926.6 31954.5 32062.5 32010.5 32038.4 32066.4
Woodie's 31525 31737.5 31830 32042.5 32135 32347.5 32440
DeMark's - - 31966.2 32110.6 32271.2 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES