ธนาคารกลางแคนาดาจับตาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ในคำปราศรัยล่าสุดในงานประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ณ เมืองมาราเกช ประเทศโมร็อกโก ทิฟ แม็กเล็ม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศแคนาดา กล่าวถึงศักยภาพในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตในบริบทของความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์และอัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่ ในขณะที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม จะพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ รวมถึงผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวต่อต้นทุนการกู้ยืม และบทบาทของการออมในการชดเชยผลกระทบจากการต่ออายุสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอัตราที่สูงขึ้น

ในระหว่างการประชุมทางวิดีโอจากมาร์ราเกช แม็กเลมชี้แจงว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น จะไม่เข้ามาแทนที่นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่มุ่งควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยตั้งข้อสังเกตว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังของตลาดสำหรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่กำหนดไว้ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายที่ 2%

ทั้งนี้ ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ เช่น เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงสูง แม็กเลมยังคงแสดงความมั่นใจในความสามารถของแคนาดาที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยรับทราบถึงผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในการบรรเทาภาวะเงินเฟ้อ และยังคงเปิดทางเลือกใช้นโยบายในอนาคต ท่ามกลางความผันผวนของตลาดและความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม IMF ระบุว่าแคนาดาเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ OECD ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย เนื่องจากหนี้ครัวเรือนและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการซื้อบ้านที่เพิ่มขึ้นหลังจากการแพร่ระบาด ในขณะที่ยอดขายบ้านในแคนาดาลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนกันยายน และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ของแคนาดาปรับลดการคาดการณ์สำหรับปีนี้ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงต่อเนื่องนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

ทางด้านธนาคารแห่งประเทศแคนาดาซึ่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกรกฎาคมสู่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปีที่ 5% และได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยตลาดเงินคาดการณ์ถึงแนวโน้มการใช้นโยบายแบบเข้มงวดขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่ง BOC มีกำหนดเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจในวันที่ 23 ตุลาคม โดยจะให้ข้อมูลเชิงลึกถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ

ในสหรัฐอเมริกา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลราคาผู้บริโภคที่ร้อนแรง ตอกย้ำความคาดหวังที่เฟดอาจจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นต่อไปอีกนาน หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน และอัตรารายปีคงที่ที่ 3.7% สอดคล้องกับตัวเลขในเดือนสิงหาคม ในขณะที่จุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่ออัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะได้รับอิทธิพลจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่อยู่ในระดับปานกลาง

ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงในเดือนตุลาคม โดยภาคครัวเรือนคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในปีหน้า ท่ามกลางความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานที่ยังคงแนวโน้มสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจากการสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยคาดว่าได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ความรุนแรงในตะวันออกกลาง การประท้วงหยุดงานอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมยานยนต์ และความผิดปกติทางการเมืองในวอชิงตัน ในขณะที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อหนึ่งปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในเดือนตุลาคมจาก 3.2% ในเดือนกันยายน จึงอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดายังคงแนวโน้มอ่อนค่ากว่าดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อีกเล็กน้อย โดยอาจปรับตัวขึ้นลงอย่างต่อเนื่องในกรอบบน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3660, 1.3665, 1.3672

แนวรับสำคัญ : 1.3644, 1.3639 , 1.3632                 

5H Outlook  

ที่มา: Investing.com                                     

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3634 - 1.3644 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3644 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3662 และ SL ที่ประมาณ 1.3629 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3660 - 1.3670 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3683 และ SL ที่ประมาณ 1.3639 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3660 - 1.3670 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3660 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3642 และ SL ที่ประมาณ 1.3675 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3634 - 1.3644 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3622 และ SL ที่ประมาณ 1.3665 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Oct 16, 2023 09:49AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2