ราคาข้าวโพดคาดยังถูกกดดัน ท่ามกลางพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้นและการใช้ที่ทรงตัว

ราคาข้าวโพดล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเข้าซื้อหลังย่อตัวและการเข้าซื้อทางเทคนิค การเก็บเกี่ยวข้าวโพดในช่วงแรก เริ่มต้นด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ในขณะที่ความต้องการข้าวโพดสำหรับการผลิตเอธานอลที่แข็งแกร่งช่วยชดเชยอัตราการส่งออกที่ชะลอตัวลง โดยการผลิตเอทานอลในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 1.039 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้สต็อกข้าวโพดแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 และขณะเดียวกัน ตลาดยังคงติดตามรายงานการเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งที่สองของบราซิลและสภาพการเพาะปลูกในอเมริกาใต้

แนวโน้มข้าวโพดของสหรัฐฯ ในปี 2023/24 คาดว่าอุปทานและสต็อกคงเหลือจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยสต๊อกเริ่มต้นของปี 2023/24 ได้ลดลงเนื่องจากการปรับเปลี่ยนทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงการใช้ข้าวโพดสำหรับเอทานอลในปี 2022/23 โดยผลผลิตข้าวโพดในปี 2023/24 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากพื้นที่เก็บเกี่ยวที่มากขึ้นที่ได้ช่วยชดเชยผลผลิตที่ลดลง ในขณะที่ผลผลิตเฉลี่ยต่อเอเคอร์คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย ซึ่งโดยรวมแล้ว การใช้ข้าวโพดในสหรัฐอเมริกายังคงทรงตัว ส่งผลให้สต็อกคงเหลือเพิ่มขึ้น โดยราคาข้าวโพดเฉลี่ยตามฤดูกาลสำหรับเกษตรกรยังคงอยู่ที่ 4.90 ดอลลาร์ต่อบุชเชล

ทั้งนี้ ภาพรวมทั่วโลกสำหรับธัญพืชหยาบต่างประเทศในปี 2023/24 บ่งชี้ว่าผลผลิตลดลง การค้าลดลงเล็กน้อย และสต็อกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยผลผลิตข้าวโพดจากต่างประเทศส่วนใหญ่ยังคงสม่ำเสมอ ซึ่งผลผลิตของยูเครนคาดว่าจะดีขึ้น ในขณะที่ผลผลิตของสหภาพยุโรปลดลง และสต็อกข้าวโพดจากต่างประเทศพบว่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในบราซิล เม็กซิโก ยูเครน และจีน ในขณะที่สต็อกในอาร์เจนตินาลดลง ส่งผลให้สต๊อกข้าวโพดทั่วโลกโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะเดียวกัน ผลผลิตข้าวโพดในบราซิลปี 2023-24 คาดว่าจะมีปริมาณมาก โดยคาดว่าจะพบการส่งออกที่สำคัญ ในขณะที่อาร์เจนตินาคาดการณ์ว่าผลผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน จึงคาดว่าสต็อกเริ่มต้นของยูเครนปี 2023-24 จะอยู่ในระดับทรงตัว และสต็อกคงเหลือเพิ่มขึ้น ในขณะที่การคาดการณ์ผลผลิตและการนำเข้าของจีนในปี 2023-24 ยังคงทรงตัว ท่ามกลางพืชผลที่เสียหายจากพายุไต้ฝุ่นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน

อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวโพดจาก USDA ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด จากการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโพดจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผลผลิตลดลงเล็กน้อยก่อนหน้านี้ ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การเพาะปลูกข้าวโพดทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี และส่งผลให้ผลผลิตข้าวโพดสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย

ด้วยเหตุนี้ ในช่วงแรกหลังมีการรายงานจาก USDA จึงส่งผลให้ราคาข้าวโพดดิ่งลงต่ำ และปรับตัวกลับเพิ่มขึ้นในวันต่อมา โดยแนวโน้มขาลงของข้าวโพดได้รับแรงเสริมจากแนวรับที่ถูกทำลาย ในขณะที่ตัวชี้วัด Stochastic บ่งชี้ถึงแนวโน้มการลดลงอย่างต่อเนื่อง เว้นแต่ว่าราคาข้าวโพดจะสามารถทะลุระดับแนวต้านที่ 509.50 ได้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US Corn Futures - Dec 23 (ZCZ3)

แนวต้านสำคัญ : 482.48, 482.84, 483.41

แนวรับสำคัญ : 481.34, 480.98, 480.41                    

5H Outlook    

ที่มา: Investing.com                        

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 479.34 - 481.34 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 481.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 482.70 และ SL ที่ประมาณ 478.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 482.48 - 484.48 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 485.20 และ SL ที่ประมาณ 480.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 482.48 - 484.48 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 482.48 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 481.20 และ SL ที่ประมาณ 486.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 479.34 - 481.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 476.68 และ SL ที่ประมาณ 484.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 14, 2023 09:45AM GMT+7