เงินดอลลาร์แคนาดามีการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว

การแข็งค่าของดอลลาร์แคนาดานี้คาดว่าจะเกิดจาก 2 ปัจจัยใหญ่โดยที่ธนาคารกลางแคนาดา (BOC) ได้มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% โดย ณ ตอนนี้มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5% และเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นภายในประเทศนั้นถือว่าสูงพอสมควร ซึ่งเงินเฟ้อที่ได้ประกาศล่าสุดออกมาที่ 3.4% เท่านั้น โดยลดจาด 4.4% ในเดือนก่อนหน้าแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

ปัจจัยนอกเหนือจาก BOC ที่มีการเพิ่มดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐ ก็มีการลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยล่าสุดที่ประกาศในวันนี้ เงินเฟ้อเหลือเพียงแค่ 3% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เองก็มีการปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยปรับลดลงมาที่ 4.8% การที่ CPI และ Core CPI ของสหรัฐลดลงก็จะมีการคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงตามไปด้วย

เมื่อดูอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของแคนาดาพบว่าผลตอบแทนมีการลดลงต่ำกว่า 3.5% อีกครั้ง หลังจากข้อมูลเปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ลดลงในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม ทาง BOC ได้มีปรับการคาดการณ์การเติบโตของปีนี้ให้สูงขึ้น และปรับความคาดหวังในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อโดยเลื่อนเวลาออกไปอีก 6 เดือนจนถึงกลางปี ​​2568

ทางด้านสภาปกครองของธนาคารกลางระบุว่าการบริโภคที่แข็งแกร่งเกินคาดและตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างหนักทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไปสำหรับภาคการบริการ ซึ่งแทบจะเป็นการยืนยันได้ว่าการกู้ยืมจะเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น ธนาคารจึงปรับการคาดการณ์เพื่อแสดงว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3% ในปีหน้า ก่อนที่จะผ่อนคลายลงสู่เป้าหมาย 2% ในกลางปี ​​2568

บริษัท ADP ว่ารายงาน การจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2022 หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 ปี และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 228,000 ตำแหน่งเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่งปรับขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ รายงานนี้บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ถึงแม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงแรงงานสหรัฐมีการรายงานว่า จำนวนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ 248,000 และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 245,000 ราย แต่จำนวนผู้ได้รับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องปรับตัวลดลง 13,000 ราย สู่จุดต่ำสุดรอบ 4 เดือนที่ 1.720 ล้านรายสิ่งนี้บ่งชี้ว่าการปลดพนักงานออกกำลังขยายออกไปในวงกว้างยิ่งขึ้น แทนที่จะกระจุกตัวอยู่แต่ในภาคเทคโนโลยี

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 1.3214, 1.3270, 1.3305

แนวรับสำคัญ: 1.3124, 1.3088, 1.3033

ที่มา: Investing.com