เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัว เผชิญแรงกดดันมากขึ้น

ล่าสุด กิจกรรมภาคธุรกิจของยูโรโซนลดลงในเดือนที่แล้ว โดยทั้งอุตสาหกรรมบริการและการผลิตของโรงงานต่างหดตัว ในขณะที่การสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภครายเดือนของ ECB ซึ่งเปิดเผยความคาดหวังระดับกลางสำหรับการเติบโตของรายได้ ช่วยลดความกังวลของ ECB ลงได้บ้างท่ามกลางความพยายามในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจากผลการสำรวจยังระบุถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าที่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ 2.5% ในอีก 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB

ยอดค้าปลีกในยูโรโซนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ได้ชดเชยการลดลงของยอดขายอาหารและเชื้อเพลิงยานยนต์ โดยการบริโภคที่ซบเซาเป็นผลมาจากรายได้ที่แท้จริงที่ลดลง รายจ่ายด้านพลังงาน เครดิต และการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการระมัดระวังที่มากขึ้นของครัวเรือนเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ทางด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของเยอรมนีประสบความล้มเหลว เนื่องจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เน้นย้ำถึงความท้าทายที่เยอรมนีต้องเผชิญในการเอาชนะภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้จะพบคำสั่งซื้อการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคมและหนุนมุมมองเชิงบวกอยู่บ้าง ในขณะที่การเติบโตของภาคบริการของเยอรมนีชะลอตัวในเดือนมิถุนายน สะท้อนถึงการสูญเสียโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่สังเกตได้ทั้งในฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเองเผชิญกับภาคบริการที่ลดลงในเดือนมิถุนายน ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจของประเทศอาจหดตัวในไตรมาสที่สอง โดยจากผลการสำรวจเผยให้เห็นอุปสงค์ที่อ่อนแอและปัจจัยกดดันต่างๆ เช่น ต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อ ในขณะที่ธนาคารกลางฝรั่งเศสคาดว่าเศรษฐกิจจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในปีนี้ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลง โดยธนาคารคาดการณ์การเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโต 0.1% ในไตรมาสปัจจุบัน และเติบโต 0.2% ในไตรมาสต่อๆ ไป

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันจากการเติบโตของการจ้างงานที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งนำไปสู่การลดความคาดหวังต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยพบการจ้างงานเพิ่มเพียง 209,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งและกดดันดอลลาร์อ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นักลงทุนได้หันมาให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯในเดือนมิถุนายน เนื่องจากการเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งของเฟด โดยดัชนีราคาผู้บริโภคคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% ต่อปีในเดือนมิถุนายน ช้าที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2564 ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคหลักซึ่งไม่รวมราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่ผันผวน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราปีละ 5% ลดลงจาก 5.3 %ในเดือนพฤษภาคม แต่ยังเกินเป้าหมาย 2% ของเฟด โดยรายงานการจ้างงานในเดือนมิถุนายนยังคงบ่งบอกถึงสภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัว แม้ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

ด้วยเหตุนี้ แนวโน้ม EUR/USD อาจเผชิญกับแรงกดดันขาลงเนื่องจากความท้าทายทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และความกังวลเกี่ยวกับการหดตัวของเศรษฐกิจในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวอาจได้รับอิทธิพลจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจอ่อนค่าลงได้ หากข้อมูลเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเฟดใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD EUR/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.0970, 1.0973, 1.0977

แนวรับสำคัญ : 1.0962, 1.0959 , 1.0955                          

5H Outlook

ที่มา: Investing.com   

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0957 - 1.0962 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.0962 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0971 และ SL ที่ประมาณ 1.0953 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0970 - 1.0975 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0982 และ SL ที่ประมาณ 1.0958 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0970 - 1.0975 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.0970 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0960 และ SL ที่ประมาณ 1.0979 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.0957 - 1.0962 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0949 และ SL ที่ประมาณ 1.0975 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jul 10, 2023 09:29AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2