อังกฤษยังเผชิญแรงกดดันด้านราคา

เศรษฐกิจอังกฤษช่วงนี้พบการเติบโตของยอดค้าปลีกในอังกฤษยังคงทรงตัวในเดือนเมษายน ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ซึ่งอยู่ที่ 10.1% ในเดือนมีนาคม มากกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารถึง 5 เท่า ส่งผลให้ผู้ซื้อใช้เงินน้อยลง โดยธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) คาดการณ์ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาจะชะลอตัวภายในสิ้นปีนี้

โดยเฉพาะราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ที่ได้เพิ่มขึ้น 19.1% ต่อปีในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2520 ในขณะที่กิจกรรมในภาคการก่อสร้างของอังกฤษเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างเชิงพาณิชย์ที่แข็งแกร่งในรอบหกเดือน โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจของอังกฤษที่ปรับตัวดีขึ้นและความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ฟื้นตัว ท่ามกลางโครงการสร้างที่อยู่อาศัยที่ยังคงลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 โดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงและอัตราการจำนองที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ แรงกดดันด้านห่วงโซ่อุปทานในอังกฤษได้ปรับตัวดีขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 หลังจากวิกฤตการเงินโลก โดยอัตราเงินเฟ้อของต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 แม้ว่าราคาพลังงานที่สูงขึ้นและราคาวัสดุก่อสร้างบางประเภทจะยังคงกดดันต้นทุนสูงขึ้นอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยของอังกฤษมีสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ หลังจากการชะลอตัวอย่างรวดเร็วจากความวุ่นวายในตลาด โดยข้อมูลของ BoE ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์พบว่ามีปริมาณการขอสินเชื่อที่พักอาศัยในเดือนมีนาคมสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ในขณะที่ราคาบ้านพบการปรับเพิ่มขึ้น 0.5% ต่อเดือนในเดือนเมษายน หลังจากที่ลดลงยาวนานเจ็ดเดือน

ทางด้านภาคบริการของสหราชอาณาจักรเริ่มต้นไตรมาสสองด้วยการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบปี โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ S&P Global/CIPS ที่เพิ่มขึ้นเป็น 55.9 จาก 52.9 ในเดือนมีนาคม ที่ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศและยอดขายในต่างประเทศที่ดีขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงพบปัญหาการส่งต่อต้นทุนของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการสำรวจของ BoE แสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจยังคงปฏิเสธที่จะปรับราคาขายลงในเดือนเมษายน แม้ว่าการคาดการณ์การเติบโตของค่าจ้างและอัตราเงินเฟ้อในปีหน้าจะเย็นตัวลง

ในขณะเดียวกัน อัตราการจ้างงานของอังกฤษยังคงเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน พบความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 13 เดือน โดยบริษัทกว่า 52% คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดีในปีหน้า เพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงินต่อจากนี้

ทั้งนี้ ตลาดคาดว่า BoE จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 4.5% ในสัปดาห์หน้า และอาจใกล้สิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะยังคงพบแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากตลาดแรงงาน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของอังกฤษคาดว่าจะอยู่ที่ 4.75% หรือ 5% ได้ในปลายปีนี้

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันอังคาร เนื่องจากตลาดยังคงให้ความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลเงินเฟ้อมากกว่าทางออกของปัญหาจากเพดานหนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เงินปอนด์ปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง ในขณะที่ขาขึ้นของเงินดอลลาร์จะยังคงถูกจำกัดในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2634, 1.2638, 1.2646

แนวรับสำคัญ : 1.2620, 1.2616, 1.2608                         

5H Outlook

1H Outlook

ที่มา: Investing.com                                      

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2615 - 1.2620 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2620ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2638 และ SL ที่ประมาณ 1.2610 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2634 - 1.2639 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2650 และ SL ที่ประมาณ 1.2615 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2634 - 1.2639 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.2634 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2619 และ SL ที่ประมาณ 1.2644 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2615 - 1.2620 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2606 และ SL ที่ประมาณ 1.2638 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points May 10, 2023 09:55AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2