ข่าวราคาทองคำวันนี้ 5 มกราคม 2023

วันพุธ (4 มกราคม 2023) ที่ผ่านมา ราคาทองคำปิดบวก $14.60 แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่บริเวณ 1,864.91$ ก่อนลดช่วงบวกลงหลัง Job Openings ของสหรัฐฯ ออกมา "สูงเกินคาด" สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว ขณะที่รายงานการประชุมเฟดประจำเดือนธันวาคมบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดทุกคนลงความเห็นให้ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เฟดสามารถเพิ่มต้นทุนสินเชื่อต่อไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปเพื่อคุมอัตราเงินเฟ้อ ในทางเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายยังคงมุ่งเน้นไปที่การควบคุมการเพิ่มขึ้นของราคา และกังวลเกี่ยวกับ "ความเข้าใจผิด (Misperception)” ในตลาดการเงินว่า ความมุ่งมั่นของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อกำลังหย่อนยานลง

ทองคำได้รับแรงหนุนจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 48.4 ในเดือนธันวาคม และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.5 จากระดับ 49.0 ในเดือนพฤศจิกายน รวมถึงดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.24% หลังรายงานการประชุมเฟดเดือนธันวาคม ไม่ได้มีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ แพทย์หญิงมาเรีย ฟาน เคอร์คอฟ หัวหน้าด้านเทคนิคขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.5 ถือเป็นไวรัสโควิด-19 ที่สามารถแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในขณะนี้ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลของประชาชนในการใช้ชีวิต และนักลงทุนจะมีการซื้อขายสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

ในทางกลับกัน ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% ในวันพุธ (4 มกราคม) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมถึงดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 133.40 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิด +0.75% และดัชนี Nasdaq ปิด +0.69% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่า ควรจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมไปถึงกองทุน SPDR ที่มีการถือครองทองคำ -0.87 สู่ระดับ 916.77 ตัน ทำให้ปี 2023 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -0.87 ตัน ก็ยังส่งผลกระทบด้านลบต่อทองคำ

การวิเคราะห์แนวโน้มทองคำ

เมื่อวานนี้ทองคำสร้างระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น ราคาพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,869-1,871 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้อาจเห็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,845-1,828 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำเปิดสถานะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,828 ดอลลาร์ต่อออนซ์