หมีตบตลาดคว่ำ กดราคาน้ำมันดิ่ง 2% สวนทางตัวเลขการบริโภคในสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง

หมีตบตลาดคว่ำ กดราคาน้ำมันดิ่ง 2% สวนทางตัวเลขการบริโภคในสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง
Create at 1 year ago (May 19, 2022 11:37)
ราคาน้ำมันดิ่ง 2% สวนทางตัวเลขการบริโภคในสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ที่ซื้อขายในนิวยอร์กร่วงลง 2.81 ดอลลาร์หรือ 2.5% ที่ 109.59 ดอลลาร์ เกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 4% ในช่วงสองวันของการซื้อขายหลังจากเพิ่มขึ้น 14.5% ในช่วงสี่ช่วงก่อนหน้าซึ่งทำระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ที่ 114.90 ดอลลาร์ในวันจันทร์
 
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ซื้อขายในลอนดอนร่วงลง 2.82 ดอลลาร์หรือ 2.5% ที่ 109.11 ดอลลาร์
 
Big Oil ร่วงตาม Big Tech ในวันพุธ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประกอบกับการเทขายทำกำไรของนักลงทุนในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ราคาน้ำมันดิบดิ่งลง แม้ว่ามีการบริโภคจะเพิ่มขึ้นและข้อมูลตัวเลขคงคลังที่เผยแพร่โดยรัฐบาลที่เป็นบวก
 
เกณฑ์มาตรฐานราคาน้ำมันดิบโลกร่วง 4.5% ในการซื้อขายสองวันหลังจากที่เพิ่มขึ้นประมาณ 12% ในช่วงสี่ช่วงก่อนหน้าซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 114.79 ดอลลาร์ในวันจันทร์
 
การเทขายน้ำมันเพิ่มมากขึ้นในวันพุธ แม้ข้อมูลสินค้าคงคลังจากสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะเป็นบวก ซึ่งได้รายงานการเบิกจ่ายน้ำมันดิบและปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินที่เกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
 
John Kilduff หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งกองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านพลังงานของนิวยอร์กกล่าวว่า "นั่นคือสิ่งที่คุณจะเรียกว่าซื้อตามข่าวลือและขายตามความจริง ('Buy-the-Rumor, Sell-the-Fact')"
 
“ผู้ซื้อขาขึ้นในตลาด (Buyer) ได้เดิมพันตัวเลขเบิกจ่ายที่แข็งแกร่งสำหรับน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซิน แม้ในขณะที่ผู้ซื้อขาลง (Seller) คาดการณ์ไว้ในทางตรงข้าม และบางคนเห็นว่าเหมาะสมที่จะนำเงินที่พวกเขาหามาได้ ออกจากพอร์ตในวันนี้” คิลดัฟฟ์ กล่าว “นอกจากนี้ยังมีข่าวลือออกมาไม่หยุดหย่อน เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความกลัวต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เพิ่มการเดิมพันในตลาดหุ้นและตลาดโดยทั่วไป”
 
หุ้นในวอลล์สตรีทร่วงหนักอีกครั้งในวันพุธ โดยกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Nasdaq ร่วงลงมากกว่า 4% เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาร่วงลงอีกครั้งจากความกังวลเรื่องการเติบโตหลังจากหยุดพักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประกอบกับการถูกเทขายในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ Nasdaq ร่วงลง 7% ตลอดทั้งเดือนพฤษภาคม และหากคิดเป็นรายปี ลดลง 26%
 
“มีการคาดการณ์จากธนาคารกลางว่า ตอนนี้แม้แต่เฟดก็ตั้งเป้าไปที่ทางออกของนโยบายการเงินที่นุ่มนวล ซึ่งรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วงก่อนจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย” เครก เออร์แลม นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว “อาจถึงเวลาที่ต้องรัดเข็มขัดและเตรียมพร้อมสำหรับปีที่ท้าทาย”
 
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในวันอังคาร ว่าพร้อมจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง หากจำเป็น เพราะต้องทำให้เงินเฟ้อลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยน้ำมันเบนซินที่สูงกว่า 4.50 ดอลลาร์ต่อแกลลอนสำหรับปั๊มและดีเซลบางแห่งของสหรัฐฯ ที่ราคามากกว่า 6 ดอลลาร์ จากปัจจัยด้านอัตราเงินเฟ้อ อาจนำไปสู่การทำลายอุปสงค์พลังงานในท้ายที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคพบว่าการจ่ายราคาดังกล่าวยากขึ้นเรื่อย ๆ
 
การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สำหรับปีนี้มีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ 2.4% ซึ่งต่ำกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ 0.8% เนื่องจากสงครามยูเครนทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบทั่วโลกมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ S&P Global กล่าวในบันทึกแนวโน้มเมื่อวันพุธ
 
ข้อมูล EIA น้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 3.39 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม เทียบกับการเพิ่มขึ้น 1.38 ล้านบาร์เรล ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ก่อน ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม จะมีการเพิ่ม 8.49 ล้านบาร์เรล ท่ามกลาง สินค้าคงเหลือน้ำมันเบนซินที่ลดลง 4.78 ล้านบาร์เรล เทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะมีการเบิกจ่าย 1.33 ล้านบาร์เรล ซึ่งในสัปดาห์ก่อนหน้า ลดลง 3.61 ล้านบาร์เรล
 
ยอดคงเหลือน้ำมันดิบคงคลัง เพิ่มขึ้น 1.24 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดว่าจะลดลง 800,000 บาร์เรล และลดลง 913,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ก่อน
 
Source: Investing
 
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
 
Brent oil tf. H1
WTI oil tf. H1
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES