ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันอังคารเนื่องจากความกังวลว่าพายุอีกลูกอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตในเท็กซัสในสัปดาห์นี้ แม้ในขณะที่อุตสาหกรรมของสหรัฐฯ พยายามดิ้นรนเพื่อกลับสู่ระดับการผลิตปกติหลังจากพายุเฮอริเคนไอดาสร้างความเสียหายให้กับคาบสมุทรกัลฟ์
.
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 40 เซนต์หรือ 0.5% ที่ 73.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 74.08 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
.
ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐก็พุ่งขึ้น 45 เซนต์หรือ 0.6% มาที่ 70.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นถึง 71.05 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. และในด้าน Brent เพิ่มขึ้น 0.8% ในขณะที่ WTI เพิ่มขึ้น 1.1% ในวันจันทร์
.
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯกำลังดำเนินการรับมือกับพายุ ในขณะที่โรงกลั่นน้ำมันบนบกเริ่มเตรียมการรับมือสำหรับพายุโซนร้อนนิโคลัส ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งเท็กซัสด้วยลมแรง 70 ไมล์ต่อชั่วโมง (113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) คุกคามชายฝั่งเท็กซัสและหลุยเซียน่าที่ยังคงฟื้นตัวจาก เฮอริเคนไอด้า
.
Satoru Yoshida นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Rakuten Securities กล่าวว่า "นักลงทุนกังวลว่า Nicholas จะทำให้เกิดการหยุดชะงักเพิ่มเติมในคาบสมุทรกัลฟ์ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามค้นหาว่าผลผลิตน้ำมันดิบจะได้รับผลกระทบจาก Ida นานแค่ไหน" โดยมากกว่า 40% ของผลผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวสหรัฐยังคงออฟไลน์ในวันจันทร์ สองสัปดาห์หลังจากที่ไอด้ากระแทกเข้ากับชายฝั่งหลุยเซียน่า ตามรายงานของสำนักบังคับใช้ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (BSEE)
.
รัฐบาลสหรัฐฯ ตกลงขายน้ำมันดิบจากทุนสำรองฉุกเฉินของประเทศให้กับบริษัท 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงExxon Mobil (NYSE: XOM ) และChevron (NYSE: CVX ) ภายใต้การประมูลตามกำหนดเพื่อหาเงินงบประมาณของรัฐบาลกลาง
.
องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ได้ปรับลดประมาณการความต้องการน้ำมันของโลกสำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่พุ่งต่อเนื่อง ในขณะที่เพิ่มการคาดการณ์สำหรับปี 2565 เป็น 4.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับ 3.28 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนที่แล้ว
Updated
2 years ago
(Sep 14, 2021 18:16)
