บทวิเคราะห์ USD/INR 25 เมษายน 2567

Create at 1 week ago (Apr 25, 2024 20:05)

อัตราเงินเฟ้อของอินเดียอาจเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง

เงินรูปีของอินเดียอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังจากแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนได้รับสัญญาณจาก RBI ว่าจะมีการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กดดันค่าเงินรูปีในช่วงนี้ ทั้งนี้ ราคาพลังงานที่ลดลงจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลงและอาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในอนาคตด้วย


การขาดดุลการค้าของอินเดียลดลงเหลือ 15.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ลดลงจาก 18.1 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า โดยการส่งออกลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 41.7 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้าลดลงอย่างรวดเร็วที่ 4.5% เป็น 57.28 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดจากการซื้อทองคำที่ลดลง โดยลดลงเหลือ 1.5 พันล้านดอลลาร์


อัตราเงินเฟ้อในอินเดียลดลงเหลือ 4.85% จาก 5.09% ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยสาเหตุหลักยังคงมาจากราคาอาหารและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญยังคงส่งผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของอินเดียโดยตรงและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพืชผลทางเกษตรเป็นจำนวนมากและทำให้ราคาผักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ราคาเสื้อผ้าและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น  ทั้งนี้ ความต้องการด้านพลังงานยังคงทรงตัว เนื่องจากกำลังการผลิตยังคงเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับอดีต


Manufacturing PMI ของอินเดียอยู่ที่ 59.1 ในเดือนเมษายน ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของกิจกรรมโรงงานในรอบ 10 ปี เนื่องจากผลผลิตที่สามารถทำได้และคำสั่งซื้อใหม่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่การจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามกิจกรรมโรงงานที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ง่ายมากขึ้น


Service PMI เพิ่มขึ้นเป็น 61.7 ในเดือนเมษายน แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของภาคบริการ 33 เดือนติดต่อกัน โดยคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นช่วยขยายเพดานของภาคบริการให้เพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากต่างประเทศ ถึงอย่างนั้น การจ้างงานในภาคบริการไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 7.2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและยืดเยื้อเป็นเวลานาน รวมไปถึงสภาพทางการเกษตรที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มลดความคาดหวังว่า RBI จะลดอัตราดอกเบี้ยลง นอกจากนี้ การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากแรงกดดันด้านอาหาร ทำให้ค่าเงินรูปีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 83.404, 83.443, 83.482

แนวรับสำคัญ: 83.326, 83.287, 83.249

บทวิเคราะห์ USD/INR วันนี้ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 83.287 - 83.326 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 83.326 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.443 และ SL ที่ประมาณ 83.249 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 83.404 - 83.443 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.482 และ SL ที่ประมาณ 83.287 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 83.404 - 83.443 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 83.404 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.287 และ SL ที่ประมาณ 83.482 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 83.287 - 83.326 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.249 และ SL ที่ประมาณ 83.443 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 25 เมษายน 2567 19:58 น. GMT+7

ชื่อ
S3
S2
S1
จุดกลับตัว
R1
R2
R3
Classic 83.249 83.287 83.326 83.365 83.404 83.443 83.482
Fibonacci 83.287 83.317 83.335 83.365 83.395 83.413 83.443
Camarilla 83.345 83.352 83.359 83.365 83.374 83.381 83.388
Woodie's 83.251 83.288 83.328 83.366 83.406 83.444 83.484
DeMark's - - 83.346 83.375 83.424 - -
______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES