ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดจากความหวังในการลดดอกเบี้ย นลท. เตรียมพร้อมรับความท้าทายในไตรมาส 2

ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นหลังวันหยุด โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาเดือนกุมภาพันธ์ที่อ่อนแอกว่าที่คาด บ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน ขณะที่วอลล์สตรีทตอบรับไตรมาส 2 ในเชิงบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากกิจกรรมการผลิตของจีนพบการเติบโต

ในการซื้อขายล่าสุด ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 เผชิญกับการลดลงเล็กน้อยเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังการรายงานข้อมูลการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดสูงขึ้นเล็กน้อย นำโดยภาคเทคโนโลยี ซึ่งในบรรดาหุ้นที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด หุ้นของ AT&T ร่วงลงเนื่องจากการรั่วไหลของข้อมูล ในขณะที่ Microsoft เพิ่มขึ้นเนื่องจากวางแผนที่จะนำเสนอแอป Teams แยกจากผลิตภัณฑ์ Office ทั่วโลก เพื่อจัดการกับประเด็นการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป หลังจากที่ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ตามมาด้วยดัชนีดาวโจนส์

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกพบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานของหุ้นบริษัทชิปอย่าง Nvidia ซึ่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สูง ท่ามกลาง Bank of America ที่ยังคงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับ Nvidia และหุ้นชิป AI อื่นๆ ขณะที่ Micron Technology ปรับตัวขึ้นหลังจากที่ Bank of America ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความคาดหวังเกี่ยวกับความต้องการชิปหน่วยความจำสำหรับ AI ที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน Tesla มีการปรับขึ้นราคาสำหรับรุ่น Model Y ท่ามกลางความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่อ่อนแอ

อย่างไรก็ดี ข้อมูลการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนตั๋วคลังสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดทั่วโลก โดยแม้ว่าตลาดวอลล์สตรีทจะมีผลการกำเนินงานที่ดีพอสมควร แต่โมเมนตัมของเงินดอลลาร์นั้นกลับยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ส่งสัญญาณถึงสถานะการซื้อของเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้น

หลังจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในไตรมาสแรกของปี นักลงทุนยังคงใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับการสะดุดของตลาดหุ้นที่อาจเกิดขึ้นในไตรมาสที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และรายงานผลประกอบการของบริษัทที่กำลังจะมีขึ้น

โดยดัชนี S&P 500 ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยมีผู้เล่นหลักอย่างผู้ผลิตชิป Nvidia และ Meta Platforms เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนของราคาที่สูงขึ้นครั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของเฟดเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งของรายได้ของบริษัท ซึ่งถึงแม้จะมีความคาดหวังถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันตลาดคาดว่าจะพบจำนวนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลง เนื่องจากสัญญาณของความแข็งแกร่งในเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ รวมถึงข้อมูล ISM และการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ขณะที่นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตถึงแนวโน้มในอดีตที่ชี้ให้เห็นถึงโมเมนตัมของตลาดที่ชะลอตัวลงในขณะที่เฟดเข้าใกล้การปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของผลการดำเนินงานและผลกำไรของบริษัทต่างๆ ในการกำหนดทิศทางของตลาด ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงอาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและองค์กร และจะเป็นการเพิ่มความซับซ้อนอีกขั้นให้กับการทิศทางของตลาดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 39447.5, 39453.6, 39463.4

แนวรับสำคัญ : 39427.9, 39421.8, 39412.0            

1H Outlook

ที่มา: TradingView            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 39377.9 - 39427.9 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 39427.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39450.6 และ SL ที่ประมาณ 39353.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 39447.5 - 39497.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39540.0 และ SL ที่ประมาณ 39403.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 39447.5 - 39497.5 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 39447.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39424.9 และ SL ที่ประมาณ 39522.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 39377.9 - 39427.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39330.0 และ SL ที่ประมาณ 39497.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Apr 2, 2024 09:03AM GMT+7