บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 12 มีนาคม 2567

Create at 1 month ago (Mar 12, 2024 10:23)

วอลล์สตรีทเผชิญความผันผวน: โกลด์แมนแนะกระจายความเสี่ยง คริปโตพุ่งแตะระดับนิวไฮ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทปรับตัวลดลง โดย Nvidia เผชิญการกลับตัวลงหลังจากพุ่งขึ้นสูงล่าสุด ซึ่งแม้ว่าราคาจะร่วงต่ำลงกว่า 5% ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งวัน แต่ Nvidia ก็ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยกำไรที่มากกว่า 6% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีนี้

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พบการซื้อขายที่หลากหลายในวันจันทร์ โดยพบการเพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจวัสดุพื้นฐาน โทรคมนาคม รวมถึงน้ำมันและก๊าซ แต่พบราคาที่ร่วงลงในภาคบริการผู้บริโภค อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมรอข้อมูลราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อประเมินข้อมูลเชิงลึกถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ทางด้านนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs เน้นย้ำถึงการครอบงำตลาดทุนของสหรัฐฯ ซึ่งครอบครองสัดส่วน 50% ของตลาดทุนทั่วโลก ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเติบโตของผลกำไรที่แข็งแกร่ง และการเข้าถึงอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพื่อตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นักวิเคราะห์จึงสนับสนุนให้มีการเพิ่มความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ในการลงทุนมากขึ้น

โดยนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ได้หยิบยกข้อกังวลเกี่ยวกับการกระจุกตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ แม้จะตระหนักถึงเหตุผลที่เป็นไปได้สำหรับการกระจุกตัวนี้ แต่ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นถึงการสนับสนุนให้นักลงทุนกระจายพอร์ตการลงทุนของตนในภูมิภาคและภาคส่วนต่างๆ ที่หลากหลายมากกว่าเดิม

ทั้งนี้ ความโดดเด่นของภาคเทคโนโลยีทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกาและเอเชียที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ ในขณะที่ภาคส่วนอื่นๆ พบผลการดำเนินงานอย่างจำกัดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน โดยแม้จะพบการกระจุกตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี แต่ Goldman Sachs ได้แนะนำโอกาสในการกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการดูแลสุขภาพในภูมิภาคส่วนใหญ่ เนื่องจากระดับราคาที่เหมาะสมและศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี รายได้เชิงบวกจาก Oracle โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้มีอิทธิพลต่อการเพิ่มขึ้นในหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ ขณะที่การประกาศร่วมทุนระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์และ Nvidia ได้เสริมมุมมองเชิงบวก และนำไปสู่ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโต อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคเทคโนโลยี ได้ส่งผลให้นักลงทุนบางรายเลือกขายทำกำไรมากขึ้น

ทางด้านบริษัท Boeing เผชิญกับความท้าทายหลังจากหุ้นของบริษัทร่วงลงท่ามกลางความคาดหวังถึงความร่วมมือในการสอบสวนโดยกระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ เกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินกลางอากาศของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ 737 MAX 9 ในเดือนมกราคม

ในตลาดสกุลเงินดิจิทัล Coinbase ปิดท้ายวันด้วยราคาที่ลดลง ในขณะที่ MicroStrategy ทะยานขึ้นหลังจาก Bitcoin พุ่งขึ้นสูงแตะระดับสูงสุดใหม่ ท่ามกลางความคืบหน้าด้านข้อบังคับและเหตุการณ์ Halvening ที่จะเกิดขึ้นในตลาดคริปโต ที่ส่งอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นเชิงบวกใน Bitcoin

ทางด้านอัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขยับขึ้นก่อนการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ โดยธนบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีกำหนดออกแถลงการณ์นโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 20 มีนาคม โดยผู้เข้าร่วมตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางการดำเนินการในอนาคตของธนาคารกลาง

ทั้งนี้ ความคิดเห็นล่าสุดของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ และความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ ยังคงมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของตลาด โดยปฏิทินเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้รวมถึงข้อมูลยอดค้าปลีก ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดวอลล์สตรีทเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5134.1, 5135.3, 5137.2

แนวรับสำคัญ : 5130.3, 5129.1, 5127.2              

1H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: Investing.com  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5125.3 - 5130.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5130.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5134.1 และ SL ที่ประมาณ 5123.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5134.1 - 5139.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5145.0 และ SL ที่ประมาณ 5128.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5134.1 - 5139.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5134.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5129.0 และ SL ที่ประมาณ 5141.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5125.3 - 5130.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5119.0 และ SL ที่ประมาณ 5136.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Mar 12, 2024 08:51AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 5124 5127.2 5129 5132.2 5134 5137.2 5139
Fibonacci 5127.2 5129.1 5130.3 5132.2 5134.1 5135.3 5137.2
Camarilla 5129.3 5129.8 5130.2 5132.2 5131.2 5131.6 5132.1
Woodie's 5123.2 5126.8 5128.2 5131.8 5133.2 5136.8 5138.2
DeMark's - - 5128.1 5131.7 5133.1 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES