ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงลดลงแม้เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงแล้ว

เงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาสู่ระดับ 0.92 ยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐฯ การประกาศอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงทำให้นักลงทุนมองหาสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อคาดการณ์นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 90 bps ในปีนี้ ลดลงจาก 150 bps ในช่วงต้นปี ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อที่ยังคงเพิ่มขึ้นนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจในหลายประเทศ

ในรายงานการประชุม ECB ครั้งล่าสุด ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% และยังคงมีความเห็นร่วมกันว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนลดคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ 

ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ยังมีความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อและกล่าวเพิ่มเติมว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไปอาจส่งผลให้การกดดันเงินเฟ้อในอยาคตเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ภาระทางการเงินของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจผ่อนคลายลง ทำให้เศรษฐกิจเกิดความร้อนแรงมากเกินไปจนเกิดการกระตุ้นการใช้จ่ายและทำให้เงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงมาเล็กน้อยที่ 2.8% ในเดือนมกราคม โดยเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปที่ 2.0% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสำหรับอาหารและเครื่องดื่มลดลงเล็กน้อยที่ 5.6% ในขณะที่ราคาพลังงานลดลงอย่างต่อเนื่องที่ -6.1% ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิขโดยรวม ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ได้ลดลงเป็นเดือนที่หกติดต่อกันที่ 3.3% 

การให้กู้ยืมของธนาคารแก่ภาคครัวเรือนในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 6.870 ล้านล้านยูโรในเดือนมกราคม ถือว่าเป็นการเติบโตของสินเชื่อที่ช้าที่สุดตั้งแต่ปี 2015 ชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญของเศรษฐกิจในยูโรโซน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงจากทางธนาคารเองเนื่องจากจำเป็นต้องลดอัตราการเกิดหนี้เสียจากการกู้ยืม ด้านการให้กู้ยืมแก่บริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% เนื่องจากต้นทุนด้านสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในเขตยูโรลดลงเหลือ 95.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ ความเชื่อมั่นที่ลดลงยังคงเกิดจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงทำให้ธุรกิจต่างๆ มีต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งด้านต้นทุนการกู้ยืมและต้นทุนสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ อุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอส่งผลให้กำไรของหลายอุตสาหกรรมลดลงตามไปด้วย โดยความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ผลิตยังคงลดลงที่ 9.5 ความเชื่อมั่นของผู้ให้บริการลดลง 6.0 และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงมากที่สุดที่ 15.5 เนื่องจากสถานการณ์ที่กดดันการเงินของภาคครัวเรือน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 0.9238, 0.9242, 0.9249

แนวรับสำคัญ: 0.9227, 0.922, 0.9216

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.922 - 0.9227 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.9227 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9242 และ SL ที่ประมาณ 0.9216 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 29 กุมภาพันธ์ 2567 09:48 น. GMT+7