ตลาดฟิวเจอร์ส S&P 500 ทรงตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังขาดทิศทางที่แน่ชัด ปิดตลาดพบการซื้อขายที่หลากหลายในวันจันทร์ โดยได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงในภาคส่วนธุรกิจต่างๆ สินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันและก๊าซ รวมถึงการดูแลสุขภาพ เพิ่มขึ้น ในขณะที่สาธารณูปโภค เทคโนโลยี และการเงิน ปรับตัวลงลง ขณะที่ตลาดฟิวเจอร์สทรงตัวในคืนวันจันทร์ รอรายงานอัตราเงินเฟ้อในวันนี้ ท่ามกลางดัชนี S&P 500 ที่ยังคงแสดงความยืดหยุ่น และรักษาเสถียรภาพไว้ได้ หลังจากเอาชนะแนวโน้มขาลงในช่วงสามเดือนล่าสุด

ทางด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค จากผลการสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งนิวยอร์กและมหาวิทยาลัยมิชิแกน สะท้อนถึงแนวโน้มที่ละเอียดอ่อน แม้จะพบว่าความเชื่อมั่นลดลงเล็กน้อยจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่อัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพและตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวอาจส่งผลต่อจุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก NFIB ที่คาดว่าจะลดลง

ข้อมูลการสำรวจยังบ่งชี้ว่าการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในหนึ่งปีลดลงเหลือ 3.6% ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงมุมมองเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ความคาดหวังเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างยังคงเป็นไปในทางบวก และสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ทั้งนี้ จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำในรอบหกเดือน และพบรูปแบบการใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามระดับรายได้ โดยผู้มีรายได้สูงยังคงใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยปรับลดค่าใช้จ่ายลง

อย่างไรก็ดี การเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนตุลาคมจากกระทรวงแรงงานจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การผลิตในสหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายเนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซาและสินค้าคงคลังส่วนเกินตั้งแต่การหยุดชะงักทจากการระบาดโควิด-19

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะเตรียมพร้อมรับข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการของบริษัทในช่วงสัปดาห์สำคัญ เพื่อประเมินเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และพฤติกรรมผู้บริโภค

โดยบริษัทค้าปลีกอย่าง Home Depot, Walmart และ Target มีกำหนดรายงานตัวเลขรายได้ โดยจะให้ภาพรวมของความต้องการของผู้บริโภคและผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการค้าปลีกก่อนช่วงเทศกาลวันหยุด ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูระดับหนี้บัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น เงินออมในช่วงโควิด-19 ที่เริ่มหมดลง และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยคาดว่า Walmart และ Target จะจัดโปรโมชั่นทางการขายและลดราคาสินค้าลงในช่วงเทศกาลวันหยุด ประกอบกับการตัดสินใจของ Walmart ที่จะไม่จ้างพนักงานตามฤดูกาล ที่ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเพิ่มเติม ตามรายงานของ Sizemore Capital Management

ในขณะเดียวกัน มูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐฯ เป็น "ลบ" เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการปิดตัวของรัฐบาลที่อาจเกิดขึ้น โดยนอกจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสัปดาห์นี้ ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่สำคัญอย่าง จำนวนที่อยู่อาศัย อัตราการว่างงาน และราคาผู้ผลิต จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนการประชุมเดือนธันวาคมนี้ได้ โดยแม้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปจนถึงทรงตัวได้อยู่บ้างในช่วงนี้ แต่ความเปราะบางทางโครงสร้างเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทั่วโลกอาจส่งผลกระทบและกดดันตลาดหุ้นโดยรวมได้ทุกเมื่อ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 4417.9, 4420.3, 4424.2

แนวรับสำคัญ : 4410.1, 4407.7, 4403.8                      

5H Outlook

ที่มา: Investing.com                                           

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4390.1 - 4410.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4410.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4418.3 และ SL ที่ประมาณ 4380.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4417.9 - 4437.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4445.0 และ SL ที่ประมาณ 4400.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4417.9 - 4437.9 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4417.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4408.1 และ SL ที่ประมาณ 4447.9 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4390.1 - 4410.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4380.0 และ SL ที่ประมาณ 4427.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 14, 2023 09:27AM GMT+7