GBP/USD ทรงตัวหลังเงินเฟ้ออังกฤษเริ่มส่งสัญญาณหดตัว

ล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยน GBP/USD ยังคงทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนซึมซับข้อมูลการจ้างงานล่าสุดจากสหราชอาณาจักร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเผยให้เห็นภาพรวมของตลาดแรงงานในสหราชอาณาจักรที่ยังอยู่ในทิศทางผสมผสาน พร้อมด้วยการพัฒนาทางภูมิทัศน์เศรษฐกิจที่ยังคงค่อนข้างแข็งแกร่ง

โดยอัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจาก 4.2% เป็น 4.3% ในช่วงสามเดือนถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือเป็นอัตราการว่างงานสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดเดือนกันยายน 2564 และบ่งชี้ถึงแนวโน้มการชะลอตัวของตลาดแรงงาน โดยแม้ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตของค่าจ้างพบว่ายังคงเติบโตได้ดี

ทั้งนี้ ค่าจ้างที่ไม่รวมโบนัสเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงสามเดือนเดียวกัน ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกในปี 2544 โดยการเติบโตของค่าจ้างอย่างมากนี้อาจเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) ในการกระชับนโยบายการเงินเพิ่มเติม

โดยตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะนำไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งโดย BOE ในวันที่ 22 กันยายนนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 5.25% เป็น 5.5% นับเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญของธนาคารกลางอังกฤษในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งปัจจุบันถือว่าสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว

อย่างไรก็ดี แม้จะมีการเติบโตของค่าจ้างในเชิงบวกและความคาดหวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ยังคงพบสัญญาณเตือนจากข้อมูลตลาดแรงงาน ซึ่งนอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของการว่างงานแล้ว จำนวนผู้มีงานทำก็ได้ลดลงอย่างมาก โดยลอนดอนประสบปัญหาการจ้างงานที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ในขณะที่จำนวนผู้มีงานทำช่วงอายุระหว่าง 16-24 ปีลดลงอย่างมาก และถือเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์

ผลกระทบของการพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าว จึงส่งผลต่อตลาดสกุลเงินอย่างสังเกตได้ หลังจากเงินปอนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากการเปิดเผยข้อมูล และเป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ว่าการเติบโตของค่าจ้างยังคงแข็งแกร่งและมีการเพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ระดับค่าจ้างที่แท้จริงก็ไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายในยุโรปช่วงแรก โดยการกลับตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการย่อตัวลงต่ำในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับมุมมองคาดการณ์เตรียมพร้อมรับข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยจุดสำคัญของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสัปดาห์นี้อยู่ที่การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากคาดว่าจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น แม้ว่าจะมีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนกันยายน แต่แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ สำนักงานสำรวจสำมะโนสหรัฐฯ ยังเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ารายได้ที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อลดลง และดัชนีวัดความยากจนในสหรัฐฯ ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการตอบสนองของรัฐบาลต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ในขณะที่อัตราความยากจนของเด็กเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าหลังจากมีการหมดอายุเครดิตภาษีเด็กที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด และอำนาจการใช้จ่ายของครัวเรือนถูกบั่นทอนด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปีด

ด้วยเหตุนี้ แม้ตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักรจะส่งสัญญาณทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งอาจผลักดันให้ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงต้องต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และความท้าทายทางเศรษฐกิจอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงอาจส่งผลให้แนวโน้มการซื้อขายของคู่สกุลเงินอาจยังคงทรงตัว โดยอาจพบแนวโน้มแข็งค่าแบบจำกัดของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อยู่ เนื่องจากผลตอบแทนของทั้งสองสกุลเงินที่ไม่ต่างกันมาก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2497, 1.2502, 1.2510

แนวรับสำคัญ : 1.2481, 1.2476 , 1.2468                 

5H Outlook

ที่มา: Investing.com                                                               

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2471 - 1.2481 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2481 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2497 และ SL ที่ประมาณ 1.2466 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2497 - 1.2507 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2515 และ SL ที่ประมาณ 1.2476 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2497 - 1.2507 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2497 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2476 และ SL ที่ประมาณ 1.2512 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2471 - 1.2481 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2458 และ SL ที่ประมาณ 1.2502 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 13, 2023 10:22AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2