บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 8 สิงหาคม 2566

บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 8 สิงหาคม 2566
Create at 8 months ago (Aug 08, 2023 10:29)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นก่อนรายงานเงินเฟ้อ ท่ามกลางมุมมองเศรษฐกิจเชิงบวก

หุ้นสหรัฐฯ ปิดตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ ฟื้นตัวบางส่วนจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นก่อนรายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เป็นที่จับตามองและมีกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ โดยในการซื้อขายช่วงค่ำของวันจันทร์ พบฟิวเจอร์สของหุ้นสหรัฐฯ ถูกซื้อขายอยู่ในกรอบแคบๆ หลังจากที่ดัชนีมาตรฐานมีการรซื้อขายเป็นบวกระหว่างเซสชั่น ในขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อมองหาสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญ

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีหุ้นหลักปรับตัวลดลงเนื่องจากการเทขายทำกำไรหลังจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยาวนาน รวมถึงจากรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตลอดปี 2566 โดยดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์และความคาดหวังสำหรับเส้นทางเศรษฐกิจที่อาจจะราบรื่นขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้ คาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ในอนาคต หลังจากตลาดกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับบรายงานการจ้างงานในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นระยะเวลานาน โดยจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งนิวยอร์กและสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียง คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจเริ่มลดลงตั้งแต่ต้นปี 2567 ในขณที่ ผู้ว่าการฯ มิเชล โบว์แมน คาดการณ์ถึงความน่าจะเป็นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย 2 %

ทางด้านดัชนีเทคโนโลยี Nasdaq ทำลายสตรีคที่ขาดทุนติดต่อกันเป็นเวลาสี่วัน ปิดการซื้อขายเชิงลบที่ยาวที่สุดในปีนี้ แม้ว่าหุ้นบริษัทเทสลาจะปรับลดลง 0.9% แต่ผลการดำเนินงานของ Nasdaq นั้นยังคงแข็งแกร่งและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ มาได้ โดยก่อนหน้านี้ Nasdaq เคยประสบกับการขาดทุนติดต่อกันสี่วันที่คล้ายกันนี้เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และขาดทุนติดต่อกันหกครั้งก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

ในขณะเดียวกัน ดัชนี S&P 500 สามารถออกจากสตรีคการขาดทุนสี่เซสชั่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการขาดทุนแบบดียวกันเกิดขึ้น 2 ครั้งในปี 2566 (ในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม) โดยหุ้นหลักส่วนใหญ่ของ S&P ปรับตัวสูงขึ้น นำโดยธุรกิจด้านการบริการสื่อสารและการเงิน โดยเพิ่มขึ้น 1.9% และ 1.4% ตามลำดับ

ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการรายได้สำหรับไตรมาสที่สองมีผลงานที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตามข้อมูลของ Refinitiv ที่มีจนถึงวันศุกร์ 79.1% ของ 422 บริษัท ในดัชนี S&P 500 มีผลประกอบการที่ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน แต่ราคาโดยรวมกลับผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยรายงานเงินเฟ้อที่กำลังจะมีขึ้น คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในกระบวนการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในระหว่างการประชุมเดือนกันยายน หลังจากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าสุด 25 จุดในเดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ดี ตลาดฟิวเจอร์สยังคงบ่งชี้ถึงความคาดหวังของตลาดที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนโยบายเพิ่มเติมคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี แม้ว่าการตัดสินใจจะถูกขับเคลื่อด้วยข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น โดนนอกจากข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมแล้ว นักลงทุนจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าคงคลังของธุรกิจค้าส่ง อุปทานน้ำมันดิบ และข้อมูลการยื่นรับขอสวัสดิการการว่างงานในสัปดาห์ล่าสุด จึงคาดว่าจะส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 4517.6, 4520.8, 4525.8

แนวรับสำคัญ : 4507.6, 4504.4, 4499.4             

5H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: Investing.com      

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4502.6 - 4507.6 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4507.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4517.6 และ SL ที่ประมาณ 4499.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4517.6 - 4522.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4528.0 และ SL ที่ประมาณ 4504.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4517.6 - 4522.6 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4517.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4503.9 และ SL ที่ประมาณ 4525.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4502.6 - 4507.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4493.0 และ SL ที่ประมาณ 4520.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Aug 08, 2023 10:03AM GMT+7

Name S3 S2 S1 Pivot Points R1 R2 R3
Classic 4490.7 4499.4 4503.9 4512.6 4517.1 4525.8 4530.3
Fibonacci 4499.4 4504.4 4507.6 4512.6 4517.6 4520.8 4525.8
Camarilla 4504.7 4505.9 4507.1 4512.6 4509.5 4510.7 4511.9
Woodie's 4488.5 4498.3 4501.7 4511.5 4514.9 4524.7 4528.1
DeMark's - - 4501.6 4511.4 4514.8 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES