เศรษฐกิจของจีนยังต้องมีการจับตาดูอย่างใกล้ชิด

มีข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนประกาศในเมื่อวันที่ผ่านมาพบว่า GDP ในไตรมาสที่ 2 ของจีนมีการเติบโตอยู่ที่ 0.8% จากไตรมาสก่อนหน้า ถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ที่ 0.5% ก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงอย่างมากจาก 2.2% ในไตรมาสก่อนหน้า เมื่อมาดูการเติบโตของ GDP ในรายปีพบว่ามีการเติบโตที่ 6.3% ในไตรมาสที่ 2 ถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.3% และจีนยังมีการปรับคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปีนี้อยู่ที่ 5% เท่านั้นหลังจากพลาดเป้าที่ 5.5% ในปีที่แล้ว

การเติบโตของ GDP ที่ยังทำได้ไม่ดีมากนัก ทำให้มีนักลงทุนจำนวนมากมีการจับตารัฐบาลจีนเพื่อดูว่าจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่ พร้อมกับการจับตาดูค่าเงินหยวนที่มีการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการฟื้นตัวที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงการคาดการณ์ว่าจะเกิดเงินฝืดในประเทศว่าจะมีการแก้ไขอย่างไร

ได้มีการสำรวจตัวเลขอัตราการว่างงานภายในประเทศพบว่ามีการว่างงานอยู่ที่ 5.2% ในเดือนมิถุนายน 2566 โดยตัวเลขการว่างงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือนที่ผ่านมา โดยพบว่าอัตราการว่างงานของประชากรอายุ 25-59 ปีอยู่ที่ 4.1% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่อัตราว่างงานของผู้ที่มีอายุ 16-24 ปี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.3% จาก 20.8% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งนี่ทำให้ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ของพนักงานในองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 48.7 ชั่วโมงในเดือนมิถุนายน จาก 48.6 ชั่วโมงในเดือนก่อนหน้า 

การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจทำได้อย่างยากลำบากมากขึ้น โดยพบว่าหนี้ของรัฐบาลมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว แต่ทางด้านตัวชี้วัดอื่นก็ได้มีการแสดงให้เห็นว่าภาพรวมของจีนเองก็มีการเติบโตเช่นกัน โดยตัวเลขยอดค้าปลีกได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี รวมถึงการเติบโตของการผลิตภาคอุตสาหกรรมเองก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน

ทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนซึ่งมีความสามารถในการขับเคลื่อน GDP ถึง 1 ใน 4 และเป็นเป้าหมายหลักของความพยายามลดหนี้สินของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการพบว่าการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงถึง 20.6% ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการปรับตัวลดลงไปถึง 21.5% ในเดือนพฤษภาคม

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของจีนอยู่ที่ระดับ 2.7% ซึ่งอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีและ 5 ปีลง 10 bps ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเพื่อพยุงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ และนักลงทุนยังมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะทำนโยบายแบบผ่อนคลายต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้งหลังจากธนาคารรายใหญ่หลายแห่งปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 2566 ของจีน

โดยภาพรวมแล้ว เศรษฐกิจจีนยังต้องเผชิญกับการจัดการด้านการส่งเสริมการเติบโตและความท้าทายที่เกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความผันผวนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยความพยายามอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางในการผ่อนคลายนโยบายการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.1758, 7.1787, 7.1845

แนวรับสำคัญ: 7.1671, 7.1613, 7.1584

ที่มา: Investing.com

จุดกลับตัว 18 กรกฎาคม 2566 13:57 น. GMT+7