ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนและการประชุมธนาคารกลางกำหนดความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เงินยูโรปิดตัวต่ำในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยในการซื้อขายเซสชั่นเอเชีย จากข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนที่อ่อนแอก่อนหน้านี้ โดยข้อมูลบ่งชี้ว่าการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคเริ่มส่งสัญญาณหยุดชะงักในเดือนมิถุนายน หลังจากที่กิจกรรมภาคการผลิตลดลง และกิจกรรมในภาคบริการขยายตัวช้าลง

แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนในปัจจุบันจะสูงกว่า 6% แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอ่อนแอ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่า ECB ได้ล้มเหลวในการใช้นโยบายการเงินเพื่อควบคุมแรงกดดันด้านราคา พร้อมกับความพยายามที่ล้มเหลวในการหลีกเลี่ยงแรงผลักดันเพื่อไม่ให้กลุ่มเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ ECB มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน โดยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะลดลง แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น สร้างความท้าทายสำหรับ ECB ในการลดอัตราเงินเฟ้อลงให้ถึงกรอบเป้าหมายที่ 2%

นอกจากนี้ จากข้อมูลของ S&P Global เปิดเผยว่าโมเมนตัมทางเศรษฐกิจในยุโรปได้เกือบจะหยุดชะงักในเดือนมิถุนายน ใขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในยูโรโซนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากปัญหาด้านการผลิตในฝรั่งเศสและเยอรมนี

ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจในยูโรโซนซบเซาอันเนื่องมาจากภาวะถดถอยของภาคการผลิตที่ทวีความรุนแรงขึ้น และภาคบริการที่แทบไม่พบการเติบโต สร้างภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางนโยบายสำหรับ ECB ในขณะที่ยังคงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ข้อมูลได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนคาดว่าจะอยู่ในภาวะชะลอตัว หลังจากเข้าสู่ภาวะถดถอยใน 2 ไตรมาสก่อนหน้า และคาดว่าจะไม่พบสัญญาณการฟื้นตัวในทันที แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจากยอดจองวันหยุดที่แข็งแกร่งอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาได้บ้างในระยะเวลาอันใกล้นี้

โดยทางด้าน Christine Lagarde ประธาน ECB ยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคม ส่งผลให้อัตราเพิ่มขึ้นเป็น 4%

ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนได้ประเมินผลกระทบของวงจรการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการหดตัวของประเทศเศรษฐกิจหลักยังคงมีอยู่

ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในช่วงต้นเดือนมิถุนายน โดยมีสาเหตุหลักมาจากภาคการผลิตที่หดตัวมากขึ้น ส่งผลให้ข้อมูลเงินเฟ้อแสดงภาพรวมแบบผสม โดยราคาวัตถุดิบในภาคการผลิตพบการหดตัวลงอย่างมาก ในขณะที่ราคาต้นทุนในภาคบริการสูงในรอบ 5 เดือน แม้ดัชนีราคาขายโดยรวมจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2563

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะยังจับตาดูดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพื่อประเมินแนวโน้มเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคตต่อไป ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ยังคงส่งผลให้ตลาดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม โดยการอภิปรายในฟอรัมโปรตุเกสของ ECB ซึ่งจะโฟกัสที่อัตราเงินเฟ้อ และประกอบด้วย Lagarde, Powell รวมถึงผู้นำธนาคารกลางรายอื่น ๆ คาดว่าจะสามารถส่งสัญญาณถึงทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมต่อไปได้ จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินยูโร เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มถูกกดดันอยู่บ้างในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD EUR/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.0908, 1.0910, 1.0914

แนวรับสำคัญ : 1.0900, 1.0898 , 1.0894                  

5H Outlook

ที่มา: Investing.com   

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0895 - 1.0900 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.0900 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0911 และ SL ที่ประมาณ 1.0891 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0908 - 1.0913 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0921 และ SL ที่ประมาณ 1.0896 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0908 - 1.0913 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.0908 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0900 และ SL ที่ประมาณ 1.0917 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.0895 - 1.0900 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0891 และ SL ที่ประมาณ 1.0912 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 26, 2023 09:39AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2