คู่เงิน EUR/USD ทรงตัว หลังผ่านความผันผวนจากช่วงสุดสัปดาห์ (21 เม.ย. 65 - 22 เม.ย. 65) โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับการสนับสนุนจากผลตอบแทนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในชั่วข้ามคืน 

ในขณะเดียวกัน เงินยูโรมีการซื้อขายที่ 14 pip ในตลาดเอเชีย ในกรอบ 1.0830-1.0846 ซึ่งขณะนี้กำลังมีการรวมตัวกันของตลาด หลังจากมีการประกาศของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุม IMF และธนาคารโลก

โดย Powell ได้ประกาศว่า จะมีการปรับขึ้น 50 bps ในเดือนพฤษภาคม 65 อย่างไรก็ตาม Powell ไม่ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางนโยบายอื่นที่นอกเหนือจากนั้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากการซื้อขายในนิวยอร์ก โดยมีเงินยูโรเป็นแรงผลักดันในพื้นที่อัตราแลกเปลี่ยน

นักวิเคราะห์ของโนมูระ ได้คาดการณ์ว่า หลังจาก FED เร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps ในเดือนพฤษภาคม 65 จะทำให้เกิดการผลักดันอัตรากองทุน FED เป็น 2.25%-2.5% ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 65 ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นจาก 2.57% เป็น 2.68% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นจาก 2.82% เป็น 2.91%

นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 เม.ย. 65) เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางยุโรป ที่ให้เดิมพันว่า อัตราดอกเบี้ยยูโรโซนจะเพิ่มขึ้นในไม่ช้า อีกทั้ง Joachim Nagel ประธานธนาคารสหพันธ์เยอรมนี (Bundesbank) ได้เข้าร่วมกลุ่มผู้กำหนดนโยบาย โดยกล่าวว่า ECB สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในช่วงต้นไตรมาสที่สาม ประกอบกับ Emmanuel Macron ได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่ง Macron สนับสนุนสกุลเงินเดียวคือ ยูโร

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่สนใจในคู่เงิน EUR/USD ควรหมั่นติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ข้อมูลเศรษฐกิจ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาและยูโรโซน เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อคู่เงิน EUR/USD

Source: Fxstreet