EUR/USD ปรับตัวลดลงระหว่างวันอยู่ที่ระดับประมาณ 1.1330 โดยมีการลดลง 0.05% ในช่วงต้นวันศุกร์

คู่สกุลเงินหลักร่วงลงติดต่อกัน 3 วันติดโดนปิดด้วยการสูญเสียมูลค่าเล็กน้อย ที่กล่าวว่าราคายังคงเฉื่อยเนื่องจากความกังวลที่หลากหลายเกี่ยวกับตัวเร่งปฏิกิริยาความเสี่ยงที่สำคัญและสภาพคล่องที่ลดลงของตลาดเนื่องจากเทศการคริสต์มาสอีฟ

แนวโน้มบวกที่สำคัญคือผลการศึกษาทั่วโลกที่แสดงให้เห็นว่ามีโอกาสน้อยที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากเชื้อโควิด-19 ในแอฟริกาใต้ ซึ่งถูกขนานนามว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ Omicron สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุมัติเม็ดยา Covid-19 ของเมอร์ค หลังจาก 1 วันที่มีการอนุมัติยาของไฟเซอร์เพื่อต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ Omicron ก็ชอบความเสี่ยงและผู้ซื้อคู่ EUR/USD เมื่อต้นสัปดาห์ กองทัพสหรัฐฯ ยังแจ้งข่าวการพัฒนาวิธีรักษาโควิดแบบเดียวและทุกรูปแบบ

การยกเลิกคำสั่งซื้อยาของเมอร์คในฝรั่งเศส โดยอ้างว่ามีผลกระทบน้อยกว่าที่ได้รับการส่งเสริม รวมถึงมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกรณีของการแพร่หลายของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ Omicron ซึ่งส่งผลกระทบด้านลบต่อสภาวะตลาดและราคาของคู่ EUR/USD นอกจากนี้ ข้อมูลของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีการปรับระดับสูงสุดต่อเดือนใกล้ 1.50% ก็ส่งผลกระทบต่อทั้งคู่เช่นกัน เนื่องจากความคิดเห็นล่าสุดจากผู้กำหนดนโยบายของเฟด คือ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ตกต่ำและส่งสัญญาณให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในต้นปี 2565

ที่กล่าวว่าการปรับขึ้นของมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดต้องการคือดัชนีราคา Core PCE รวมถึงคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมิชิแกนซึ่งสนับสนุนราคาหุ้นกู้ในช่วงปลายปี

นอกจากนี้ ความไม่มั่นใจในแผน Build Back Better (BBB) ​​ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และจีนไม่ชอบร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ที่เน้นย้ำถึงปัญหาชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ เช่นเดียวกับกรณีโควิดที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและส่งผลให้มีการจำกัดกิจกรรม ทำใหส่งผลต่ออารมณ์ของตลาดและกดดันผู้ซื้อ EUR/USD

เนื่องจากตลาดอเมริกาและยุโรปส่วนใหญ่ยังคงปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องจากเป็นวันหยุดคริสต์มาสสภาพคล่องของตลาดเพียงเล็กน้อยและส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ EUR/USD ในทันที

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

200-EMA บนกราฟสี่ชั่วโมงรวมเส้นแนวต้านของสามเหลี่ยมสมมาตรรายเดือนเพื่อจำกัดการกลับตัวของคู่ EUR/USD ระยะสั้นที่บริเวณ 1.1350 อย่างไรก็ตาม ระดับ 100-EMA ที่ 1.1300 มีแนวโน้มที่จะท้าทายแนวโน้มด้านลบในทันที หากไม่เป็นเช่นนั้น การลดลงที่ตามมาต่อระดับ 1.1270 จะกลายเป็นระดับที่น่าจับตามอง