คาด SET เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up

คาด SET เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up
Create at 2 years ago (May 28, 2021 12:48)

คาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1560-1595 จุด คาด SET ฉะเคลียนไหวในลักษณะ Sideway Up แรงกดดันต่อ SET จากกรณีการปรับลดน้ำหนักการลงทุนของ MSc ไม่มาก ขณะที่ SET สามารถยืนเหนือ 1,564 จุด อย่างแข็งแกร่ง (SET ปิดสิ้นปี 2562 ก่อนเกิด วิกฤตโควิด-19) จากความหวังต่อวัคซีนทางเลือกที่มีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้น เพิ่มน้ำหนักต่อความคาดหวัง ที่จะเห็นการเปิดประเทศในระยะอันใกล้ รวมไปถึงปัจจัยบวกจากต่างประเทศ ทั้งราคาน้ำมันดิบที่ยังคง ปรับเพิ่ม 

รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ทําให้หุ้นในกลุ่ม Big Cap. น่าสนใจ รวมไปถึงหุ้นใต้ประโยชน์จากวัคซีนทางเลือก กลยุทธ์การลงทุนเรายังคงแนะนํา Selective เน้นลงทุนหุ้นตาม Core Investment ที่เราแนะนา โดยเราให้สัดส่วนหุ้นในพอร์ต 50%

ไบเดน ตั้งงบรายจ่ายปี 65 สูงถึง 5 ล้านล้านเหรียญระณะที่แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยังมีความเห็นที่ แตกต่าง - ประธานาธิบดีใบแดิน เตรียมเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2555 วงเงิน 5 ล้านล้านเหรียญ วันนี้ (28 ก.ค.) (ที่มา: หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์) ประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนใน โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 

โดยวงเงิน งบประมาณรายจ่ายประจําปี จะเพิ่มเป็น 8.2 ล้านล้านเหรียญ ภายในปี 2574 ขณะที่ด้านการจัดหารายได้ เพื่อมาชดเชยรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารัฐบาลไบเดน จะประกาศเพิ่มอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคล ธรรมดา ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พรรครีพับลิกันเตรียมยื่นข้อเสนอการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ของสหรัฐฯวงเงิน 9.25 แสนล้านเหรียญ วันนี้ (28 พ.ค.) ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ต่ํากว่าของรัฐบาลของใบเตน ที่ใช้วงเงิน 1.7 ล้านล้านเหรียญ (ปรับลดวงเงินจากเดิมที่ 2.5 ล้านล้านเหรียญ) ถือเป็นตัวเลขวงเงินที่มีความ แตกต่างสูง 

นอกจากนี้ท่าทีของพรรครีพับลิกัน ยังคงไม่สนับสนุนแผนของพรรคเดโมแครตในการปรับขึ้น อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อเป็นรายได้ชดเชยรายจ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ยังเป็นแรงหนุนหุ้นพลังงาน เราเสียก PTTEP PTTGC TOP IRC IVLและ SPRC สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ค.ศ. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ (+1.06) ตอบรับเชิงบวกต่ยข้อมูลทางด้าน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ติดตามการประชุม OFEC+วันที่ 1 มิ.ย. โดูยเฉพาะท่าทีของกลุ่มสมาชิก เกี่ยวกับแผนการผลิตในช่วง ม.ค. - ก.ศ. รองรับการส่งออกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของอิหร่าน หลังอิหร่านและ สํานักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) สามารถบรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาข้อตกลงตรวจสอบโรงงาน นิวเคลียร์ของอิหร่านออกไปอีก 1 เดือน ขณะที่สหรัฐฯ และยิหร่านจะทําการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ ปี 2558 ในสัปดาห์หน้า โดยตามกําหนดเต็ม OPEC+ จะเพิ่มการผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน มิ.ย. และเพิ่มอีก 441,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค.

รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลข GDP ในช่วง 1Q64(ประมาณการครั้งที่ 2) ขยายตัว 6.45ต่ํากว่าที่ Market Corsen55 ที่ระดับ 6.6% และไม่เปลี่ยนแปลง จากตัวเลขประมาณการครั้งแรก ขณะที่ Market Consensus คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีการขยายตัวในปี 2564 ไม่น้อยกว่า 756 / กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 38,000 ราย สู่ระดับ 406,000 

รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา (ต่ํากว่าคาดที่ 425,000 ราย) เป็นระดับต่ําที่สุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิต-19 ในสหรัฐฯ เมื่อเดือน มี.ค. 2553 และสตู จากสัปดาห์ก่อน หน้านี้ที่ระดับ 444,000 ราย ขณะที่จํานวนขาวอเมริกันที่ยังคงรอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 96,000 ราย สู่ระดับ 3.64 ล้านราย / กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ (เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป) ในเดือน เม.ย. หลังจากเตียน มี.ค. เพิ่มขึ้น 1.3%MoM ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ในเดือน เม.ย. 

อย่างไรก็ตามยอดสั่งซื้อสินค้า คงทนพื้นฐาน (ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ) เป็นเครื่องมือวัดการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 2.350foot (คาตเพิ่มขึ้น 1.0%) และเพิ่มขึ้น 14.75%YoY เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเตือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้น 1.6kMoM ติดตามรายงานตัวแขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของไต้หวัน ได้แก่ ne ในช่ว: 1064 /รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดุลการค้าสินค้า (Trace Ekstarxce) เดือน เม.ย.  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกน (Aichigan Consumerentiment) เดือน พ.ค. (คาดอยู่ที่ 83.0 จุด) ความคาดหวังขอผู้บริโภครู้มีชิแกน (Michigan Consume Expectations) เตียน พ.ศ. ตัวเลข ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PE Price Index) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 2.4%YoYและ 050 kok) และด้วยดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุค4a (CE Price Index) เดือน เม.ย.

Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES