ภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปช่วงนี้

หุ้นยุโรปขยับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ หลังจากที่หุ้นในกลุ่มธุรกิจเหมืองโลหะมีค่าและอุตสาหกรรมมีแนวโน้มดีขึ้นจากความต้องการที่ฟื้นตัวในจีน ชดเชยการปรับลดลงของหุ้นในธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและ Telecom Italia (BIT:TLIT) 

ส่งผลให้ดัชนี STOXX 600 ก่อนการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่จะถึงกำหนดรายงานในสัปดาห์นี้ ปิดสูงขึ้น 0.1% ถูกกดดันโดยหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการปรับลดลง 0.3% และ 0.6% จากความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ดัชนีทรัพยากรพื้นฐาน หรือ SXPP เพิ่มขึ้น 2.4% หลังจากราคาโลหะอุตสาหกรรมพุ่งสูงขึ้นจากความคาดหวังในการฟื้นตัวของอุปสงค์จากผู้บริโภครายใหญ่อย่างจีน และการสนับสนุนอุปทานและการทำเหมืองทั่วโลก

ทางด้านหุ้นฝรั่งเศสร่วงลงหลังปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ จากการขาดทุนในภาคธุรกิจน้ำมันและก๊าซ เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้ดัชนี CAC 40 ลดลง 0.16% และดัชนี SBF 120 ลดลง 0.13%

ในขณะที่หุ้นเดนมาร์กปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากผลกำไรในธุรกิจภาคสินค้าอุปโภคบริโภค การเงิน และอุตสาหกรรม ส่งผลให้ดัชนี OMX Copenhagen 20 ทำสถิติสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้น 0.11%

ทางด้านอิตาลี ปัจจุบันกำลังเตรียมมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาที่กดดันตลาดทุนของประเทศ อย่างการออกจากตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศของบริษัทและองค์กรในประเทศ เพื่อไปจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดฯอัมสเตอร์ดัม ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของมิลานตามหลังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปอย่างมาก

โดยภาครัฐได้พยายามเสริมบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ Borsa Italiana ในมิลานที่มีอายุกว่า 200 ปี ผ่านร่างกฎหมายเพื่อกระตุ้นการออก IPO หรือการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยจะออกมาตรการเพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนการเข้าจดทะเบียน ซึ่งปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายสูงและมีขั้นตอนการเปิดเผยความเสี่ยงที่ยุ่งยาก

ทางด้านดัชนีหุ้นเยอรมนี ร่วงลงหลังปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ จากการขาดทุนในภาคธุรกิจการก่อสร้าง เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม ส่งผลให้ DAX ลดลง 0.03% ในขณะที่ดัชนี MDAX ลดลง 0.19% และดัชนี TecDAX ลดลง 0.06%

ทั้งนี้ รายได้ภาษีของรัฐบาลกลางและภูมิภาคของเยอรมนีมีการปรับเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากภาษีขายและภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่สูงขึ้น ซึ่งสำหรับปี 2566 ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า รายได้ภาษีจะเพิ่มขึ้นถึง 5.2% จากปีก่อนหน้า จึงอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเยอรมนีโดยรวมลดความร้อนแรงลงได้บ้าง โดยก่อนหน้านี้ แนวโน้มเศรษฐกิจของเยอรมนีดีขึ้นหลังการฟื้นตัวในไตรมาสที่สี่ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ว่าการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะต้องใช้เวลานานกว่าจะมีการปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ตลาดทั่วโลกต่างปิดลบในสัปดาห์ที่แล้วหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ร้อนแรงเกินคาด ได้เพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนเองเพิ่มขึ้น 1.7 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ตามที่คาดการณ์ไว้ สร้างแรงกดดันต่อเนื่องเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นยุโรปโดยรวม

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) 

แนวต้านสำคัญ : 4277, 4279, 4281

แนวรับสำคัญ : 4273, 4271, 4269                        

1H Outlook

15Min Outlook

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4269 – 4273 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4273 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4278 และ SL ที่ประมาณ 4266 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4277 – 4281 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4284 และ SL ที่ประมาณ 4272 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4277 – 4281 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4277 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4272 และ SL ที่ประมาณ 4284 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4269 – 4273 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4266 และ SL ที่ประมาณ 4278 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 21, 2023 10:29AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2