การเทรด Forex มีกลยุทธ์ในการวิเคราะห์อยู่มากมายหลายรูปแบบ ซึ่ง Price Action ก็เป็นหนึ่งเทคนิคในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด Forex เนื่องจากว่าการวิเคราะห์ด้วย Price Action ที่เป็นการดูพฤติกรรมของกราฟแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวนั้น ก็สามารถที่จะใช้ในการหาจุดเข้าได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Indicator อื่นเข้ามาช่วยเลยก็ว่าได้
ในบทความนี้ จะอธิบายถึงความหมายและหลักการใช้งาน Price Action ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้ และนำไปปรับใช้ในการเทรด Forex เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนด้วย Price Action เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
Price Action คืออะไร?
Price Action คือ “พฤติกรรมของราคา” ที่ปรากฏออกมาในรูปแบบของ “กราฟแท่งเทียน” ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการพิจารณารูปแบบที่เกิดขึ้นของกราฟแท่งเทียน ซึ่งจะสามารถตีความหมายและคาดการณ์สถานการณ์ของตลาดได้
Price Action เกิดขึ้นมาจากการรวบรวมสถิติการเกิดกราฟในรูปแบบต่าง ๆ ที่ออกมาในรูปแบบของแท่งเทียน โดยแต่ละรูปแบบของแท่งเทียนที่แสดงออกมานั้น จะมีการตีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งการตีความในที่นี้ คือ การสะท้อนให้เห็นถึงการกระทำของผู้เล่นในตลาดว่าพวกเขากำลังจะ Buy หรือว่า Sell กันแน่
ส่วนประกอบของ Price Action
อย่างที่ทราบกันว่า Price Action คือ การสะท้อนหรือการบ่งชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้เล่นกระทำอยู่ในตลาด ที่ออกมาในรูปแบบของ “กราฟแท่งเทียน” โดยกราฟดังกล่าวจะให้ข้อมูลทั้งราคา Open, Close, High, Low รวมถึงช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้กิจกรรมของผู้เล่นในตลาดได้ โดยสามารถแบ่งส่วนประกอบของ Price Action (กราฟแท่งเทียน) ออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้
1. Open คือ “จุดที่ซื้อขายกันครั้งแรก” ของแท่งเทียนใน Timeframe นั้น ๆ
2. Close คือ “จุดที่ปิดการซื้อขาย” ของแท่งเทียนใน Timeframe นั้น ๆ
3. High คือ จุดที่ราคาเคยขึ้นไป “สูงสุด”
4. Low คือ จุดที่ราคาเคยลงไป “ต่ำสุด”
5. Candle Body คือ ส่วนลำตัวของแท่งเทียน เป็นช่วงระยะห่างของราคาเปิด (Open) และราคาปิด (Close)
6. Candle Wick คือ ส่วนไส้เทียน เป็นส่วนที่ราคาเคยได้ไปทำราคาสูงสุด (High) และต่ำสุด (Low) เอาไว้
และ Price Action (กราฟแท่งเทียน) สามารถแบ่งเป็นขาขึ้น (Bullish Candle Stick) และขาลง (Bearish Candle Stick) จากการแบ่งสี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว แท่งเทียน “ขาขึ้น” จะใช้เป็นสีเขียว และแท่งเทียน “ขาลง” จะใช้เป็นสีแดง ตามรูปตัวอย่างข้างต้น
3 รูปแบบต่างที่สำคัญของ Price Action
เทคนิคการเทรด Price Action จำเป็นที่จะต้องรู้ถึงความหมายของแต่ละรูปแบบของราคาที่แสดงออกมา โดยรูปแบบ Price Action ต่อไปนี้ จะเป็นรูปแบบสำคัญที่ปรากฏอยู่บ่อยครั้ง และเป็นรูปแบบที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้ในการวิเคราะห์หาจุดเข้าอย่าง ซึ่งจะมี 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1. Tweezer Top & Tweezer Bottom
รูปแบบ Price Action แบบ Tweezer เป็นลักษณะเหมือน “ค้อน” 2 อัน ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสัญญาณการ “เปลี่ยนแปลงแนวโน้ม“ ของราคา และสัญญาณของการจบการ “พักตัว” และราคาวิ่งไปต่อในแนวโน้มเดิม
- Tweezer Tops : เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้ม “ขาขึ้น” เป็นแนวโน้ม “ขาลง” หรือเป็นสัญญาณของการจบการ “พักตัว” ในแนวโน้มขาลง และราคาจะลงไปต่อ
- Tweezer Bottoms : เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้ม “ขาลง” เป็นแนวโน้ม “ขาขึ้น” หรือเป็นสัญญาณของการจบการ “พักตัว” ในแนวโน้มขาขึ้น และราคาจะขึ้นไปต่อ
2. Bullish Engulfing & Bearish Engulfing
รูปแบบ Price Action แบบ Engulfing เป็นลักษณะที่แท่งเทียนฝั่งขวามีขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนฝั่งซ้าย โดยที่แท่งเทียนทั้งสองจะต้องปิดในทางตรงข้ามกัน (ขวาเป็นขาขึ้นและซ้ายเป็นขาลง) ซึ่งบ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม สัญญาณของการจบการ “พักตัว” และราคาวิ่งไปต่อในแนวโน้มเดิม
- Bullish Engulfing : เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้ม “ขาลง” เป็นแนวโน้ม “ขาขึ้น” หรือเป็นสัญญาณของการจบการ “พักตัว” ในแนวโน้มขาขึ้น และราคาจะขึ้นไปต่อ
- Bearish Engulfing : เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้ม “ขาขึ้น” เป็นแนวโน้ม “ขาลง” หรือเป็นสัญญาณของการจบการ “พักตัว” ในแนวโน้มขาลง และราคาจะลงไปต่อ
3. Morning Star & Evening Star
รูปแบบ Price Action แบบ Star เป็นลักษณะที่แท่งเทียน 3 แท่ง โดยแท่งแรกจะมีขนาดใหญ่ แท่งที่สอง จะเป็นแท่งเทียนเล็ก ๆ หรือแท่งเทียนแบบ Doji และแท่งเทียนที่สามจะมีขนาดใหญ่เหมือนกับแท่งเทียนแท่งแรก ซึ่งจะบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- Morning Star : เป็นสัญญาณการกลับตัวจากแนวโน้ม “ขาลง” เป็นแนวโน้ม “ขาขึ้น”
- Evening Star : เป็นสัญญาณการกลับตัวจากแนวโน้ม “ขาขึ้น” เป็นแนวโน้ม “ขาลง”
ลักษณะการใช้งาน Price Action
หลังจากที่ได้ทราบความหมายของ Price Action แต่ละรูปแบบไปแล้ว ต่อมาจะเป็นการทำความเข้าใจในการใช้ Price Action เพื่อที่จะสามารถไปปรับใช้ในการเทรดจริงได้
การวิเคราะห์กราฟโดยทั่วไปแล้ว จะเป็นการหาจุดแนวรับแนวต้าน เพื่อหาจุดที่ราคาจะกลับตัว ซึ่ง Price Action เป็นเหมือนเครื่องมือหนึ่ง ที่เข้ามามีบทบาทหน้าที่ในการช่วยยืนยันว่าในจุดแนวรับหรือแนวต้านที่ได้ทำการวิเคราะห์ไปนั้น มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวมากยิ่งขึ้น