เตรียมรับมือความผันผวนตลาดสัปดาห์นี้ จับตาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการเคลื่อนไหวของเฟด

img
Create at 1 year ago (Mar 28, 2022 17:06)
สวัสดีวันจันทร์ครับ นักลงทุนทุกท่าน วันนี้ Fxtoday จะมาวิเคราะห์ภาพรวมตลาด รวมทั้งเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนตลาดในสัปดาห์นี้ ไปเริ่มกันเลย
 
ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงความผันผวนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าตลาดลงทุนอเมริกาเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นมากก็ตาม แต่ดัชนีหลักอย่างเช่นเอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ในวันศุกร์ยังสามารถวิ่งกลับขึ้นมาปิดบวกได้ 0.51% และ 0.44% ตามลำดับ หุ้นกลุ่มที่พาเอสแอนด์พี 500 กลับขึ้นมาได้คือกลุ่มพลังงาน ที่สามารถปิดบวก 2.19% ตามมาด้วยกลุ่มสาธารณูปโภค 1.45% มีเพียงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้นที่ปิดติดลบ
 
ในวันเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.44% เท่านั้น ในขณะที่ดัชนีแนสแด็ก 100 และรัสเซล 2000 ปิดตลาดติดลบตัวละ 0.1% แม้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไป และไม่อาจวางใจได้ แต่สัปดาห์นี้นักลงทุนต่างจับตาและให้ความสำคัญกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ อย่างรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมีนาคม ที่จะประกาศในวันศุกร์ที่ 1 เมษายนนี้ โดยความสำคัญก็คือหากวันศุกร์นี้ตัวเลขที่ออกมาลดลง ก็จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.50% แต่ในทางตรงกันข้าม หากตัวเลขที่ออกมาเพิ่มขึ้น ความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็น้อยลงนั่นเอง ทั้งนี้นักลงทุนทุกท่านควรมีการบริหารความเสี่ยงให้ดี
 
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้ หากตัวเลขการจ้างงานลดลง ความต้องการแรงงานก็จะเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ตัวเลขค่าจ้างต้องเพิ่มสูงขึ้น และนั่นจะยิ่งซ้ำแผลเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้เงินเฟ้อก็สูงที่สุดในรอบสี่สิบปีอยู่แล้ว ให้สูงมากยิ่งกว่านี้ แม้แต่ราคาน้ำมันดิบในตอนนี้เองยังอยู่ ณ จุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2011 ห่างจากจุดสูงสุดในปี 2008 เพียง 0.04% เท่านั้น
 
หากราคาน้ำมันดิบขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในปี 2008 ได้ บางคนคาดการณ์ว่าเฟดจะถูกบังคับให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะไม่กระทบแค่ต้นทุนการเดินทางเท่านั้น แต่อุตสาหกรรมของอเมริกา ที่ยังต้องพึ่งพาน้ำมันสำหรับการผลิตและการขนส่งผลิตภัณฑ์ จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ต้นทุนของสินค้าอื่น ๆ ก็จะปรับตัวขึ้นตามเช่นกัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
ภาพรวมของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้น 1.79% นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่วิ่งขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา 6.59% ตามมาด้วยหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 3.7% สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มที่ติดลบในสัปดาห์ที่แล้วมีเพียงหุ้นกลุ่มสุขภาพ (-0.52%) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (-0.21%) ตามลำดับ 
 
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เมื่อวันศุกร์ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดนับตั้งแต่จุดสูงสุดในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ และกำลังมุ่งหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญโซน 4589.16 อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เอสแอนด์พี 500 ได้ส่งสัญญาณขาขึ้นออกมาแล้วเมื่อราคาสามารถขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50, 100 และ 200 วัน 
 
สิ่งที่นักลงทุนต้องชั่งใจในสัปดาห์นี้ คือความเป็นไปได้ระหว่างการเป็นขาขึ้นและลง เทรนด์ไหนจะมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน ซึ่งก่อนหน้านี้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ได้ตัดกับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ลงมาแล้ว การกลับขึ้นมาทำให้ราคาได้กลับมาทดสอบที่ 4500 จุดอีกครั้ง ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นทั้งแนวรับและแนวต้านสำคัญมาก่อน ถือเป็นจุดสำคัญที่จะมีความผันผวนเกิดขึ้น
 

SPX Daily
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
สัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี สามารถขึ้นยืนเหนือระดับ 2% ได้ และกำลังอยู่บนเส้นทางของการมุ่งหน้าขึ้นทดสอบระดับ 3% ในขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์แม้จะเคลื่อนตัวขึ้น แต่ก็วิ่งอยู่ในกรอบราคาแคบ ๆ ถือว่ายังสามารถรักษาขาขึ้นสี่จากห้าสัปดาห์ล่าสุดเอาไว้ได้
 
ถึงจะยังคงเป็นขาขึ้น แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องระวังคือความชันที่กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐกำลังสร้าง ณ ตอนนี้เอนเอียงไปทางแนวโน้มขาลง การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสอดคล้องกับตลาดหุ้นที่มีแรงหนุนขาลงมากกว่าขึ้น ถึงเอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์จะเอาตัวรอดปิดบวกมาได้ แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นานต่อกลายเป็นขาลงไม่ต่างจากแนสแด็กและรัสเซล 2000
 

DXY Daily
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
ทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลง 0.41% หากพิจารณาตลอดสัปดาห์จะพบว่าทองคำปรับตัวขึ้น 1.29% ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้คือจับตาการสร้างไหล่ขวาของรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) หากสร้างไหล่ขวาสำเร็จ ให้จับตาดูแนวรับที่บริเวณราคา $1,900
 
Gold Daily
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
สกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นเมื่อเช้าวันจันทร์ กลายเป็นแนวโน้มขาขึ้นวันที่เจ็ดติดต่อกัน และยังคงวิ่งอยู่ใกล้กับระดับราคา $47,000 สาเหตุที่ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นอาจเกิดขึ้นมาจากข่าวลือในวงการที่ว่ามูลนิธิเทอร่า ซึ่งเป็นเจ้าของสเตเบิลคอยน์ UST กำลังสะสมบิทคอยน์ เพื่อเป็นทุนสำรองนอกจากดอลลาร์ แต่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคกลับบอกว่านักลงทุนควรจะจับตาดูขาขึ้นรอบนี้ไปก่อน เพราะตอนนี้กราฟกำลังติดแนวต้าน ซึ่งยังขึ้นไปไม่ถึงแนวต้านของเส้น Neckline ที่ $50,000 หากขึ้นไปถึงบริเวณนั้น ราคาบิทคอยน์อาจจะยังปรับตัวลง ต่อแนวโน้มหลักต่อได้ ตอนนี้ปัจจัยพื้นฐานกับเทคนิคมีความขัดแย้งกัน นอกจากเทอร่า รัสเซียกำลังพิจารณาจะใช้สกุลเงินบิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่ชำระตามกฎหมายได้ แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคกลับชี้ให้เห็นว่าขาขึ้นรอบนี้ยังมีความเสี่ยง
 

BTC/USD Daily
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
สุดท้าย ราคาน้ำมันดิบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทะยานขึ้น 8.79% ชิงพื้นที่จากขาลงในรอบสองสัปดาห์กลับมาได้ครึ่งหนึ่ง จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค อินดิเคเตอร์วอลลุ่ม (Volume) แสดงทิศทางที่ตรงกันข้ามกับกราฟขาขึ้น สามารถตีความได้ว่ามีความต้องการน้ำมันลดลง การปรับตัวลดลงวิ่งต่ำกว่า $93.63 ต่อบาร์เรลจะกลายเป็นการสร้างแนวโน้มขาลงอย่างเป็นทางการ